E-DUANG : เสียงเพลง และการผนึก พลัง ระหว่าง ก้าวไกล กับ เพื่อไทย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มิได้เป็น”แคนดิเดต”นายกรัฐมนตรีคนแรกที่อาศัย”บทเพลง”มาเป็นเครื่องมือในการสร้างคะแนนและความนิยมในทางการเมือง

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีนายกรัฐมนตรีอย่าง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่พรีเซ็นต์ตัวเองพร้อมกับเพลง”ยอดดอย”

ยิ่งกว่านั้น ภายหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ปรากฏตัวพร้อมกับบทเพลงยอดฮิตติดชาร์ต

“เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามก็จะคืนกลับมา”

ยังจำได้ไหม พี่น้อง ยังจำได้ไหม เพลงบทนี้ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมิได้ร้องแต่ก็อยู่ในฐานะคนแต่งและกลายเป็นแรงบันดาลใจในทางการเมือง

แล้วเหตุใดเมื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรีเซ็นต์ตนเองพร้อมกับบทเพลงกลับกลายเป็นเรื่องฮือฮา กลบทับกระแสและความนิ

ยมที่เคยเกิดขึ้นในกาลอดีตอย่างแทบจะสิ้นเชิง

ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

หากเทียบในความชมชอบต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา มีความเหนือกว่าเพราะไม่เพียงแต่แสดงบทบาทในการแต่งเพลง หากแต่ยังมีผลงานเป็น”อัลบั้ม”

ขณะเดียวกัน หากเทียบกับความพยายาม พล.อ.เปรม ติณสู ลานนท์ ก็มีความเหนือกว่า

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพียงแต่มีความชมชอบและเคยมีผล งานซิงเกิ้ลออกมา 1 เพลง และดำรงอยู่ในจุดอันเป็นคอเพลงในสายดนตรีป็อบและกรันจ์เท่านั้น

กระนั้น ที่ต้องยอมรับก็คือ ยุคสมัยปัจจุบันไม่เพียงแต่ต่างจากยุคของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หากแต่ยังต่างจากบรรยา กาศแห่งรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

การตระเตรียมร้องเพลง”เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ”

ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงนำไปสู่การคาดหวัง

 

ไม่จำเป็นต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาให้คำตอบและให้คำอธิบายสังคมก็เกิดเอกภาพในทางความคิดและรอคอย

เพราะจะเป็นการร้องกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

ยิ่งการตระเตรียมร้องเพลง”ขอให้เหมือนเดิม” ยิ่งจะกลายเป็นปรากฏการณ์อันอึกทึกครึกโครมในทางการเมืองตามมา เนื่องจากเป็นการร้องกับ นส.แพทองธาร ชินวัตร

นี่คือการประสานระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยโดยมีเพลงเป็นสะพานเชื่อมอันทรงพลัง