E-DUANG : จาตุรนต์ ฉายแสง ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ หลัก”ศิลา”  ในสายน้ำ เชียวกราก

พลันที่ข้อความจาก นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ปรากฏผ่านช่องทางแห่งโซเชียล มีเดีย “ไม่มีเกมอื่น ไม่มีทางเดินอื่น

สองพรรคต้องเดินไปด้วยกัน สิ่งที่ยังเห็นต่างต้องให้ไปจบในวงเจรจา ถ้าปล่อยมือกันเท่ากับปล่อยมือจากประชาชน”

ภาพของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กับภาพของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็ไปยืนหลังพิงกันอีกครั้งหนึ่งในท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล

สะท้อนมุมมองต่อปัญหาอันเกิดขึ้นเนื่องแต่การจัดตั้งรัฐบาล เนื่องแต่ประเด็นอันเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภา ท่ามกลางข่าวลือมากมายที่โถมเข้ามารุมล้อม

แม้จะเป็น”คนเดือนตุลาคม” แต่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็เห็นต่างไปจาก นายอดิศร เพียงเกษ แม้จะเป็น”คนเสื้อแดง” แต่ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ก็เห็นต่างไปจาก นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด

ความเห็น”ต่าง”ในแบบของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ในแบบของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ คือตัวตนอันจริงแท้

หนทางพิสูจน์แรง”ม้า” กาลเวลาพิสูจน์”คน”

 

จุดยืนอันเด่นชัดทั้งของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ก็คือ ให้ดำรงความเป็นพันธมิตรในแนวร่วมระหว่างพรรค เพื่อไทย พรรคก้าวไกล มั่นแน่ว

แม้จะมีความพยายาม”เสี้ยม” ความพยายามในการ”ทำลาย” เพื่อแยก 2 พรรคการเมืองนี้ออกจากกัน

เป็นความพยายามจาก”ภายนอก” และดำรงอยู”ภายใน”

เนื่องจากทั้ง นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ตระหนักเป็นอย่างดีว่า หากเมื่อใดที่พรรคเพื่อไทยกับพรรค ก้าวไกลแยกออกจากกัน

นั่นหมายถึงเข้าทางของ”3 ป.” นั่นหมายถึงโอกาสที่อำนาจ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และอำนาจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะยังดำรงอยู่

มีแต่ต้องยืนหยัดบนแนวทางเพื่อไทย ก้าวไกลเท่านั้นจึงจะได้ชัยชนะ

 

บทสรุปของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง เมื่อประสานกับบทสรุปของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จึงไม่เพียงแต่จะเป็นเครื่องฉายชี้ให้เห็นจุด ร่วมในทางความคิดของทั้งสอง

หากดำเนินไปอย่างท้าทายต่อแนวคิดบางแนวที่ดำรงอยู่

อย่าได้แปลกใจหาก นายจาตุรนต์ ฉายแสง จะถูกมองอย่างแปลกแปร่ง และอย่าได้แปลกใจหากชะตากรรมของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จะไม่แตกต่างไปจากของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง

ทั้งๆที่นี้คือ ตัวตนอันก่อรูปขึ้นเป็น นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก่อรูปขึ้นเป็น นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ