เผยแพร่ |
---|
ปัจจัยอะไรที่ทำให้การดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกล การดำรงอยู่ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นจุดแห่งความสนใจกระทั่งกลายเป็นตัวแปรอันแหลมคมในทางการเมือง
หากสรุปจากความจัดเจนระดับ นายสุขุม นวลสกุล ก็ต้องอยู่ที่”ความพร้อม”ในการเป็นทั้ง”รัฐบาล”และ”ฝ่ายค้าน”
ต้องยอมรับว่า พรรคการเมืองส่วนใหญ่มีความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมที่จะเป็นรัฐบาล แต่ไม่มีความพร้อมในการที่จะต้องเป็นฝ่ายค้าน
ความต้องการจะเป็นรัฐบาลมิได้เป็นเรื่องแปลก เนื่องจากเป้าหมายในการจัดตั้งพรรคการเมืองก็เพื่อให้เห็นเครื่องมือไปสู่การยึดครองอำนาจ
เพราะหากไม่มีอำนาจ ไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ปกครอง ไม่ดำรงอยู่อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งในกลไกแห่งอำนาจ ก็ไม่สามารถนำเอาความคิดและความปรารถนาไปปฏิบัติได้
กระนั้น ภายในความต้องการอำนาจ ต้องการเป็นรัฐบาลนักการเมืองของพรรคการเมืองก็ต้องยอมรับว่าการเมืองดำเนินไปทั้งที่ได้ชัยชนะและเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ส่วนหนึ่งจึงไม่สันทัดในการรับมือกับความพ่ายแพ้เพียงพอ
ต้องยอมรับว่าสถานะของพรรคประชาธิปัตย์ที่ดำรงอยู่ในจุดอันเป็น”สถาบัน”ทางการเมือง มิได้เป็นการดำรงอยู่อย่างโชคช่วยหากแต่ได้ผ่านการพิสูจน์มายาวนาน
บทพิสูจน์อย่างสำคัญ คือ บทพิสูจน์ที่สามารถเป็นได้ทั้งในฐานะของรัฐบาลและในฐานะของฝ่ายค้านการเป็นฝ่ายค้านอย่างต่อเนื่องคือส่วนที่สร้างความแกร่ง
ความแกร่งในที่นี้มิได้อยู่ที่การเล่นบทเป็นฝ่ายค้านอย่างเป็นฝ่ายรุก หากที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ การยอมรับต่อสภาพความเป็นจริงในทางการเมือง
มิได้มองเห็นแต่ด้านอันอับเฉาของฝ่ายค้านที่มีบางนักการเมืองสรุปว่า “อดอยากปากแห้ง” ตรงกันข้าม มองเห็นในด้านที่เท่ากับเป็นการสะสมกำลัง สะสมความจัดเจน
ความพร้อมในการเป็น”ฝ่ายค้าน”จึงดำเนินไปอย่างเป็นคุณ
แม้การตัดสินใจของพรรคการเมืองจะขึ้นอยู่กับผลของการเลือกตั้ง แต่ภายในกระบวนการต่อรองโดยมีผลของการเลือกตั้งก็ดำเนินไปอย่างมีทิศทาง เป็นทิศทางแห่งการเอาตัวรอดอย่างยึดอุดมการณ์หรือไม่
คำถามที่สำคัญที่สุดของพรรคการเมืองและของนักการเมืองก็คือ เป้าหมายอะไรที่จะเข้าร่วมรัฐบาล เป็นเป้าหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือยึดกุมอยู่กับอุดมการณ์ความเชื่อ
ตรงนี้แหละที่จะพิสูจน์ความพร้อมของพรรคและนักการเมือง