กระบวนท่าในการประดิษฐ์สร้าง”นโยบาย”ของพรรคก้าวไกลละม้ายเหมือนเป็นอย่างมากกับกระบวนท่าในการประดิษฐ์สร้าง นโยบายของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

จะแตกต่างก็เพียงแต่ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีเพียง 200 กว่านโยบายขณะที่พรรคก้าวไกลทะยานไปที่ 300 นโยบาย

อย่าได้แปลกใจหากการนำเสนอนโยบายของพรรคก้าวไกลที่ อยู่ภายใต้ 9 เสาหลักจะถูกมองจากคู่ต่อสู้อย่างเยาะเย้ยหยามหยันและเห็นเป็นเรื่องตลกขบขัน

ลำพังการที่พรรคก้าวหน้าไม่มีบทเรียนในการเป็นรัฐบาลก็ถูกประเมินต่ำเป็นอย่างยิ่งอยู่แล้ว เมื่อหยิบเอา 300 นโยบายมาพูดถึงก็ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะ

กระนั้น เมื่อนำเอาแต่ละนโยบาย นำเอาแต่ละเสาที่ทะยอยเสนอตัวขึ้นมามาพิจารณาก็จะสัมผัสได้ในความแตกต่างในทางเนื้อหาอย่างแจ่มชัด

เริ่มจาก #ปฎิรูปกองทัพ #แก่ไขรัฐธรรมนูญ #ปฏิรูปองค์กรอิสระให้ยึดโยงกับประชาชน #ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ

นี่เป็นการทะลุทะลวงไปสู่ การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

 

หากจับแต่ละก้าวย่างของ นส.ศิริกัญญา ตันสกุล ประสานเข้ากับ แต่ละก้าวย่างของ นายเดชรัต สุขกำเนิด ประสานเข้ากับบทบาท ของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ

ก็จะสัมผัสได้ในท่วงทำนอง การนำเสนอซึ่งผ่านการปรับแต่ง อย่างชนิดก้าวกระโดดอย่างใหญ่หลวง

นายเดชรัต สุขกำเนิด อาจยังติดท่วงทำนองในแบบ”อาจารย์” เพราะสอนหนังสือมาชั่วชีวิต แต่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ก็เรียกเสียงปราบมือจาก”มิสแกรนด์”ดังกึกก้อง

ขณะที่กล่าวสำหรับ นส.ศิริกัญญา ตันสกุล แสดงพัฒนาการ อย่างต่อเนื่องจากเวทีนครศรีธรรมราช ไปยังเวทีสงขลา ไปยังเวทีกาญจนบุรี พอถึงชลบุรีก็ร้อนแรงเป็นอย่างยิ่ง

ไม่เพียงมากด้วยความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว หากแต่ยังเกาะกุมอารมณ์และความรู้สึกของแต่ละพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม

 

เวลาที่เหลืออีกไม่ถึง 2 เดือนจึงเป็นเวลาที่พรรคก้าวไกลจะต้องเร่งนำเอา 300 นโยบายของตนแพร่กระจายออกไปอยู่ในมือของบรรดาว่าที่ผู้สมัคร

ไม่เพียงสะท้อนจุดที่แหลมคมยิ่งกว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หากแต่ยังทะลวงเข้าไปยึดเอาจุดแข็งในแบบของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประสานเข้ากับการเคลื่อนไหวที่สะท้อนเจตจำนงอันแน่วแน่ที่เรียกร้องต้องการความเปลี่ยนแปลง

ยิ่งผ่านเวทีดีเบต ยิ่งผ่านการเคี่ยวกรำเป็นทบเท่าทวีคูณ