เผยแพร่ |
---|
จังหวะก้าวของ นายทักษิณ ชินวัตร ในการแสดงความต้องการที่จะกลับบ้านมิได้เป็นจังหวะก้าว”ใหม่” เพราะได้เคยประกาศผ่าน”คลับเฮาส์” แคร์ มาก่อนหน้านี้
เพราะได้สะท้อนความต้องการอย่างต่อเนื่องนับแต่ต้องกลายเป็น”บักน่อยตุหรัดตุเหร่”ภายหลังได้หวนกลับมากราบแผ่นดินในระยะสั้นๆหลังการเลือกตั้ง
กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่าแถลงล่าสุดผ่านสำนักข่าวแห่งญี่ปุ่น มีความหนักแน่น จริงจังมากที่สุดและคำประกาศนี้สัมพันธ์กับ”การเลือกตั้ง”แนบแน่น
มีความพยายามจากคนในครอบครัว”ชินวัตร”โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องการให้เรื่องนี้ดำเนินไปอย่าง เงียบๆ
ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ออกมาแถลงว่ามิได้เป็นเรื่องของพรรค เพื่อไทย หากแต่เป็นการตัดสินใจอย่างเป็น”ส่วนตัว”จาก นายทัก ษิณ ชินวัตร เอง
คำถามก็คือ การกลับบ้านของ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นเรื่องส่วนตัวจริงละหรือท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เด่นชัดว่ามิใช่”ส่วนตัว”
เหตุปัจจัยอะไรทำให้ นส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องปิดปากไม่ยอม แสดงความเห็นใดๆ เหตุปัจจัยอะไรทำให้พรรคเพื่อไทยยังจำกัดพื้นที่ของ นายทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นเรื่องส่วนตัว
ในอีกด้านเพราะว่าพรรคเพื่อไทยตระหนักเป็นอย่างดีว่ากรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร จะกลายเป็น”ประเด็น”
และ”ประเด็น”ในที่นี้มิได้เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทยอย่างด้าน เดียว ตรงกันข้ามอาจจะกลายเป็น”ประเด็น”ซึ่งฝ่ายตรงกันข้ามจะปลุกขึ้นมาเป็นกระแสในการต่อต้าน
แม้ว่าการรวมตัวของ”พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”จะแตกฉานซ่านเซ็น แม้ว่าการดำรงอยู่ของมวลมหาประชาชนที่ เรียกตนเองว่า”กปปส.”จะกระจัดกระจาย
กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่า ไม่ว่า”พันธมิตร” ไม่ว่า”กปปส.”ล้วนกระจายตัวออกไปแทบจะทุกพรรคการเมือง
ความนิ่งเงียบจาก นส.แพทองธาร ชินวัตร เมื่อประสานเข้ากับความนิ่งเงียบของพรรคเพื่อไทย จึงสะท้อนให้เห็นถึงความระมัด ระวังในทางการเมือง เพราะแถลงของ นายทักษิณ ชินวัตร คือโยนหินถามทาง
แม้ว่าคะแนนและความนิยมของ นส.แพทองธาร ชินวัตร จะสูงอย่างยิ่ง แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะครองอันดับ 1 ในทางการเมือง
แต่ประสบการณ์”เตือน”ว่าพรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องรัดกุม