การหวนกลับสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส่งผลทั้งด้าน”บวก”และด้าน”ลบ” ในทางการเมือง

เป็นการยืนยันถึงความมั่นใจในยุทธศาสตร์”แลนด์สไลด์”ของพรรคเพื่อไทยว่ามีแนวโน้มและความเป็นจริง

หากไม่เป็นจริง เจ้าของยอดคำเท่”รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”ระดับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คงไม่กล้าทิ้งพรรคพลังประชารัฐ

ขณะเดียวกัน เยื่อใยไมตรีอันทั้ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ยังมีอยู่กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นดาบสองคม

คมหนึ่งย่อมเป็นหลักประกันได้อย่างดีว่ามือแห่งไมตรีจาก”พี่ น้อง 3 ป.”ย่อมจะเป็นอานิสงส์ให้กับพรรคเพื่อไทย โอกาสของการจัดตั้งรัฐบาลย่อมมีความเป็นไปได้

อีกด้านหนึ่ง อานิสงส์อันมาพร้อมกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นี่แหละสามารถกลายเป็นโซ่ร้อยรัดมิได้ยุทธศาสตร์”แลนด์สไลด์”บรรลุเป้าหมาย

ที่ประเมินว่าทะยานไปยัง 310 อาจลงมาอยู่ที่ 170

 

การเมืองเป็นเรื่องของ”อารมณ์” เพียง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นาย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ถอดเสื้อพรรคพลังประชารัฐและรับการสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยก็กลายเป็นประเด็น

ประเด็นที่เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ทั้งสองคนยังขานชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

ประเด็นที่จากเดือนกรกฎาคม 2562 กระทั่งเดือนมีนาคม 2566 ทั้งสองคนยังทอดสายตามองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา อย่างนิยมชมชอบ

แต่เพียงชั่วข้ามคืนก็สามารถถอดเสื้อ”พลังประชารัฐ”ออกเดินเข้ามาแล้วยินยอมให้สวมเสื้อ”เพื่อไทย”ด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส บานเบิก

เมื่อมีคำถามถึงอุดมการณ์ความเชื่อที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มีก็ย่อมเป็นคำถามถึงพรรคเพื่อไทยด้วย

 

ไม่เพียงแต่จินตภาพในการอภิปรายต่อ”เหมืองทองอัครา”จะผุดขึ้นในเชิงปฏิมา หากยังโยงสายยาวไปยังบทสรุปต่อการได้มาแห่งอำนาจทางการเมืองระหว่างอำนาจ”รัฐประหาร” กับอำนาจ”การเลือกตั้ง”

กลายเป็นว่าเสื้อของพรรคพลังประชารัฐเหมือนกับจะไม่มีจุดแตกต่างเลยแม้แต่น้อยเมื่ออยู่บนร่าง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

นี่คืออาการลื่นไหวอย่างยอดเยี่ยมยิ่งในทางการเมืองผ่าน กระบวนการของพรรคเพื่อไทยเช่นนั้นหรือ