เผยแพร่ |
---|
ยังมีความพยายามใช้”การยุบพรรค”มาเป็นอาวุธหนึ่ง ท่ามกลางกระแสสูงของ”การเลือกตั้ง”เป้าหมายหลักพุ่งไปยัง”เพื่อไทย” และ”ก้าวไกล”
น่าสังเกตว่าตัวละครที่เล่นบท”นักร้อง”ในเรื่องนี้ก็ยังเป็นคนหน้าเดิม ที่เคยแสดงบทบาทก่อให้เกิดการยุบพรรคการเมืองมาแล้วในอดีต
ไม่ว่าจะเป็นการยุบ”พลังประชาชน” ไม่ว่าจะเป็นการยุบ”ไทยรักษาชาติ” ไม่ว่าจะเป็นการยุบ”อนาคตใหม่”
ทั้งหมดนี้เป็นความต่อเนื่องจากการยุบ”ไทยรักไทย”เป็นการประเมินและคิดอย่างง่ายๆว่าหากเกิดการยุบพรรคก็จะตามมาด้วยความระส่ำระสาย เกิดความแตกแยก และพลังที่เคยมีอยู่ก็จะอ่อนแรง
อาจเคยเกิดกับพรรคไทยรักไทย อาจเคยเกิดกับพรรคพลัง ประชาชน อาจเคยเกิดกับพรรคไทยรักษาชาติ อาจเคยเกิดกับ พรรคอนาคตใหม่
แต่คำถามก็ยังเป็นคำถามเดิม นั่นก็คือเมื่อยุบพรรคไทยรักไทยก็มีพรรคพลังประชาชน ก็มีพรรคเพื่อไทย
เมื่อยุบ”อนาคตใหม่” ก็เกิด “คณะก้าวหน้า” และ”ก้าวไกล”
บทเรียนจากกรณีการยุบพรรคไทยรักไทย จากกรณีการยุบพรรค พลังประชาชน อาจก่อให้เกิด”นปช.”ดำเนินการเคลื่อนไหวบนท้องถนนในปี 2552 และในปี 2553
แต่บทเรียนจาก”นปช.” และบทเรียนจากภายหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ได้ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวแบบใหม่ เห็นได้จากการเกิด”คณะก้าวหน้า” คู่กับ”ก้าวไกล”
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยก็วางระยะห่างกับ”นปช.”และก่อเกิด”กลุ่มแคร์ คิด เคลื่อน ไทย”ดำเนินไปในลักษณะเดียวกัน กับ”คณะก้าวหน้า”
เป้าหมายมิใช่เน้นการเคลื่อนไหวบนท้องถนนเหมือนกับกรณีของ”นปช.” ตรงกันข้าม เน้นการเคลื่อนไหวในลักษณะปักธงในทาง”ความคิด”
ขณะที่”คณะก้าวหน้า” เคลื่อนไหวในพื้นที่การเมือง”ท้องถิ่น”
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า กระบวนท่า”ยุบพรรค”ไม่อาจสยบพรรคเหล่านั้นให้จำนนอย่างงดก่องอขิงหรือเกิดสภาพหนียะย่ายพ่าย จะแจในทางการเมือง ตรงกันข้าม กลับเป็นการถอยในทางยุทธศาสตร์เด่นชัดขึ้น
เด่นชัดขณะที่การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยก็ไม่โรยราอ่อนแรง เด่นชัดขณะที่การเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกลดิ่งลึกลงไปในความตื่นตัวของมวลชน
ยืนยันการดำรงอยู่ของเพื่อไทย ก้าวไกลเป็นดั่ง”จันทน์หอม”