E-DUANG : ผลสะเทือน ประปา อาจสามารถ ก้าวหน้า ก้าวไกล สู่“อนาคตใหม่”

ความสำเร็จจากโครงการ”ประปาดื่มได้”ที่เทศบาลตำบลอาจสามารถกำลังก่อให้เกิดอาการขวัญผวาอย่างรุนแรงในหมู่คนที่ชิงชังรังเกียจ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

“อาจสามารถ” อาจเป็นเทศบาลเล็กๆในตำบลเล็กๆแห่งอำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด แต่ผลสะเทือนกลับ”กว้างไกล”และ”ลึกซึ้ง”อย่างมาก

ลึกซึ้งเพราะได้กลายเป็น”โมเดล”สะท้อนให้เห็นศักยภาพในการบริหารจัดการของ”คณะก้าวหน้า”ซึ่งมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธาน

ไม่เพียงแต่ฟ้องให้เห็นถึงจุดอ่อนจุดแห่งความเหลื่อมล้ำที่ดำรงอยู่ในสังคมไทยในยุคแห่งไทยแลนด์ 4.0 ที่คนในชนบทยังต้องประสบกับความขุ่นข้นของน้ำประปาเท่านั้น

หากภายในการขับเคลื่อนผ่านโครงการ”น้ำประปาดื่มได้”ของเทศบาลตำบลอาจสามารถ ยังเป็นการนำเข้าของ”เทคโนโลยีก้าวหน้า”เข้าไปในชนบทอย่างมีประสิทธิภาพ

กลายเป็น”โมเดล”ที่พรรคก้าวไกลนำไปต่อยอดเป็น”อุตสาหกรรม”ที่พัฒนาผ่าน”เทคโนโลยี”

จึงก่ออาการขนพองสยองเกล้าต่อ”ปรปักษ์”ทางการเมือง

 

ระหว่างกระบวนการต่อสู้ของคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล กับฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐอันมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินไปด้วย ความเข้มข้นอย่างไร

เห็นได้จากการเสนอเพิ่ม”ค่าตอบแทน”ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนการเลือกตั้งหวังจะเก็บเกี่ยวคะแนนและความนิยมอย่างฉับพลันทันใด

ขณะที่คณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล เสนอนโยบายกระจายอำนาจ ปลดล็อกท้องถิ่น แก้ไขรัฐธรรมนูญ นำไปสู่ความเป็นอิสระของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ปราการด่านแรกก็คือ เสนอให้มีการเลือกตั้ง”ผู้ว่าราชการ”ทุกจังหวัด อันเป็นแนวทางเดียวกันกับที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เพื่อมอบอำนาจให้ประชาชน

ฝ่ายหนึ่งเทเงินเข้าไป ฝ่ายหนึ่งรื้อโครงสร้าง”รัฐราชการ”

 

การเข้ามาแสดงบทบาทในฐานะ”ผู้ช่วยหาเสียง” นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล นส.พรรณิการ์ วานิช จึงเป็นก้าวสำคัญในทางการเมืองเป็นการเชื่อม คณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล ไปสู่”อนาคตใหม่”

บทบาทใหม่นี้ไม่เพียงแต่พลิกฟื้นและสร้างคะแนนและความนิยมให้กับพรรคก้าวไกล หากแต่ยังสร้างความหวาดกลัวเป็นอย่างสูงในฝ่ายกุมอำนาจรัฐ