เผยแพร่ |
---|
การประกาศชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 คล้ายกับเป็นเรื่องในทางพิธีกรรม ตามขนบอันชอบในทางการเมือง
เหมือนกับการประกาศชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เหมือนกับ การประกาศชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
เพราะว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพราะว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย่อมมีความชอบธรรม
กระนั้น การเสนอตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปก็มิได้เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อนำไปวางเรียงอยู่เคียงข้างกับอีก 2 นามซึ่งเป็นคู่แข่ง
1เป็นนามของ นส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และปัจจัยสำคัญก่อให้เกิดการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ให้กับพรรคเพื่อไทย
ขณะเดียวกัน 1 เป็นนามของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งทะยานไปอยู่ในสถานะแห่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งต้องการ”ไปต่อ”อย่างยิ่งทางการเมือง
ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากด้วยความแหลมคม
เป็นความแหลมคมในฐานะที่ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่ในฐานะอันเป็นผู้ผลักดันและส่งเสริม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาโดยตลอด
ตั้งแต่ยังเป็นว่าที่ ร.ต.กระทั่งเข้าดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก
บทบาทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงอยู่ในจุดอันสรุปได้ว่าเป็นบทบาทของ”พี่มีแต่ให้” แม้หลังรัฐประหาร 2557 ก็เข้ามาหนุนเสริม
หนุนเสริมให้ขับเคลื่อนไปในฐานะนายกรัฐมนตรี หนุนเสริมให้สามารถสืบทอดอำนาจโดยการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐขึ้นมา เป็นนั่งร้านให้
การแยกและแตกตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติจึงกลายเป็นคำถามและเป็นปัญหา
คำถามในที่นี้มิได้อยู่ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แยกทางกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จริงหรือไม่ หากแต่อยู่ที่ว่าปัจจัยอะไร ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องกลายเป็นคู่ชิงเท่ากับดับความฝันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงไป
เท่ากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เสนอตัวเข้ามาและแสดง ความเหมาะสมมากยิ่งกว่า นส.แพทองธาร ชินวัตร อันปํนตัวแทนคนรุ่นใหม่และอยู่ในปีกประชาธิปไตย
ถามว่าฝันของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเป็นจริงหรือไม่