E-DUANG : เบื้องหลัง ช่าวปล่อย กระหึ่ม เพื่อไทย จับมือ พลังประชารัฐ

เหมือนกับข่าวลือว่าด้วยแนวโน้มการจับมือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ จะได้รับ “การปล่อย” ออกมาอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการ

ถามว่าออกมาจากด้านของพรรคพลังประชารัฐ ถามว่าออกมาจากด้านของพรรคเพื่อไทย นี่คือความแหลมคม

หากประเมินจาก “ตัวละคร” แต่ละตัวละคร

มองผ่านคำตอบแต่ละคำตอบจากปาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มากด้วยความคลุมเครือ โยนให้เป็นเรื่องที่จะได้ความแจ่มชัดหลังการเลือกตั้ง

เป็นความคลุมเครืออย่างมีหลักการ เป็นความคลุมเครือที่แนบแน่นอยู่กับการตัดสินใจเลือกของประชาชน บ่งสะท้อนความ เป็นประชาธิปไตยอย่างสูง

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มิได้กำหนดกฎกติกาเสมือนกับเป็นเงื่อนไขนอกเหนือจากผลการเลือกตั้ง

ตรงกันข้าม บทบาทนี้กลับเป็นทางด้านของพรรคเพื่อไทย

ไม่ว่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปพรรคเพื่อไทย

ความน่าสนใจจากปากของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และ นายสุทิน คลังแสง มีเพียงเงื่อนไขเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรคพลังประชารัฐ

ความหมายก็คือ หากพรรคพลังประชารัฐไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคเพื่อไทยก็พร้อมร่วม

สะท้อนให้เห็นจิตใจอันกว้างขวางเป็นอย่างสูง

เท่ากับมองข้ามบทบาทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปโดยสิ้นเชิง แม้จะดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553

แม้ว่าพรรคพลังประชารัฐและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงอยู่ในฐานะเป็นผู้ให้หลักประกันต่อการสืบอำนาจของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างหนักแน่นและจริงจัง

ข่าวลือ ข่าวปล่อยนี้จึงกลายเป็น”คำถาม”ทางการเมือง

3ป

คำถามมิได้พุ่งไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือแม้กระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ตรงกันข้าม กลับเน้นไปยังพรรคเพื่อไทย

ต้องการคำตอบว่านี่เป็น “แนวทาง” พรรคเพื่อไทยจริงหรือ

เป็นแนวทางที่พรรคเพื่อไทยผ่านการหารืออย่างเป็นระบบภายในพรรคเพื่อไทย และระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพันธมิตร

หรือเสมอเป็นเพียงข่าวที่ “ปล่อย” ออกมาเพื่อแยกสลายความสัมพันธ์ภายในของ “พี่น้อง 3 ป.”