เหมือนกับศึกที่ใหญ่หลวงอย่างยิ่งของพรรคประชาธิปัตย์ คือศึกจากการเติบใหญ่และขยายตัว ไม่ว่าจะจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะจากพรรคภูมิใจไทย

แต่เมื่อประเมินเข้าไปอย่างถ่องถ้วนเป็นศึกจากพรรคสร้างอนาคตไทย เป็นศึกจากพรรครวมไทยสร้างชาติมากกว่า

ไม่ว่าจะเป็นการขยับของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไม่ว่าจะ เป็นการขยับของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ล้วนสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้บังเกิด

เนื่องจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เคยร่วมรัฐบาลกับรัฐมน ตรีพรรคประชาธิปัตย์ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562

ขณะที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อยู่ในฐานะที่ปรึกษารัฐบาล

แต่ละคำพูดของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ออกมาเปิดโปง การทำงานของรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์จึงกระเทือกกระทบไปถึงกึ๋น

ขณะที่กล่าวสำหรับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ก็เริ่มต้นการ

เมืองที่พรรคประชาธิปัตย์ ย่อมรู้เช่นเห็นชาติต่อพรรคประชาธิปัตย์ในระดับไส้ระดับพุง

เส้นสายจาก”วงใน”ต่างหากที่เล่นงาน”ประชาธิปัตย์”

 

ถามว่าภายในพรรคสร้างอนาคตไทยนอกเหนือจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิวิจารณ์ แล้วยังมีใครอีก

ตอบได้เลยว่ายังมี นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ นั่งอยู่ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรครับผิดชอบภาคใต้

นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ สัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์ในระนาบเดียวกันกับความสัมพันธ์ของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

ทั้งยังเคยเป็นรองหัวหน้าพรรครับผิดชอบภาคใต้มาก่อน

แต่ละถ้อยคำจากปาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จึงมากด้วย ข้อมูล กระหน่ำเข้ากล่องดวงใจอันเป็นจุดอ่อนที่ดำรงอยู่ภายใน พรรคประชาธิปัตย์ครบถ้วน

ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติยังมี นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์

เป็นเลขาธิการพรรคอันโยงยาวไปยัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้

 

จึงมิใช่มีเพียงการเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ การเคลื่อน ไหวของพรรคภูมิใจไทย 2 พรรคเท่านั้นหรอกที่ก่อให้เกิดความหวั่นพรั่นพรึงตลอดทั้วทั้งพรรคประชาธิปัตย์

หากพรรคสร้างอนาคตไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็สาหัส

ทุกพรรคที่ถูกพรรคเพื่อไทยกระหน่ำแลนด์สไลด์จากภาคเหนือ ภาคอีสาน ย่อมตบเท้าเข้าสู่ภาคใต้โดยพร้อมเพรียง

นี่คือสถานการณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องแบกรับหนักยิ่ง