เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าการเดินทางของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไปยังศรีสะเกษในปฏิบัติการ”ไล่หนู ตีงูเห่า”
ปรากฏขึ้นพร้อมกับความคึกคักของคนสวมใส่”เสื้อแดง”
ไม่ว่าการเดินทางของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปยังชลบุรีในปฏิบัติการ”โรดโชว์”ของพรรคพลังประชารัฐ
ปรากฏขึ้นพร้อมกับความคึกคักของคนสวมใส่”เสื้อน้ำเงิน”
เป็นความคึกคักพร้อมกับคำถามจากอีกฟากฝ่ายว่าคนที่ไปร่วมงานของ”ครอบครัวเพื่อไทย”ได้เสื้อสีแดงพร้อมกับโลโกมาได้อย่างไรทั้งๆที่เป็นจำนวนนับหมื่น
เป็นความคึกคักพร้อมกับคำถามย้อนกลับไปว่า คนที่เข้าร่วมงาน”โรดโชว์”ที่ดำเนินการโดยพรรคพลังประชารัฐ ได้เสื้อน้ำเงินพร้อมกับโลโก้พรรคมาได้อย่างไรทั้งๆที่เป็นจำนวนนับหมื่น
ทั้งหมดนี้จึงมิได้สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคเพื่อไทย ที่มีต่อพรรคพลังประชารัฐ หากแต่ยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของพรรคเพื่อไทย ของพรรคพลังประชารัฐ
หากไม่พร้อมคงไม่มาพร้อมกับเสื้อแดง หากไม่พร้อมคงไม่มาพร้อมกับเสื้อน้ำเงิน
ทั้งหมดนี้จึงยืนยันลักษณะ”จัดตั้ง”อย่างเป็นรูปธรรม
ความพร้อมของมวลชนที่เข้าร่วมดังที่สัมผัสได้จากพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ สามารถเห็นได้ในการเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์
นั่นก็คือ เป็นความพร้อมในลักษณะแสดงออกผ่าน”ปริมาณ” และแสดงออกผ่าน”คุณภาพ”
เท่ากับเป็นหลักประกันโดยพื้นฐานของแต่ละพรรคการเมือง
นี่เป็นความพร้อมที่พรรคก้าวไกลก็พยายามอย่างเต็มเรี่ยวแรง และสามารถสร้างบรรยากาศได้ในอีกแบบหนึ่ง แม้จะยังไม่ทัดเทียมแต่ในความไม่ทัดเทียมนั้นก็ปรากฏความแตกต่าง
เป็นความแตกต่างที่พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ ดำรงอยู่บนรากฐานแห่งระบบ”หัวคะแนน”อันเข้มข้น
ขณะที่พรรคก้าวไกลยังไม่สามารถ”จัดตั้ง”ได้ทัดเทียม
การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 พรรคอนาคตใหม่จึงได้มาเพราะ”กระแส”และความนิยมล้วนๆ เป็นกระแสจากความสดใหม่ที่กวาดคะแนนมาได้กว่า 6 ล้านเสียง
เป็น 6 ล้านเสียงที่ยังน้อยกว่าเพื่อไทยและพลังประชารัฐ
ความคึกคักของเสื้อแดง ความคึกคักของเสื้อน้ำเงิน จึงท้าทายต่อการเคลื่อนไหวของเสื้อส้มของก้าวไกลอย่างแหลมคม
ถามว่าพรรคก้าวไกลจะยืนยัน”จุดต่าง”ของตนได้เพียงใด