E-DUANG : คำถาม รายรับ ทางการเมือง คำตอบ อันถือเป็น “รายจ่าย”

ไม่เพียงแต่ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เท่านั้นที่กำลังเหยียบเข้าสู่บาทก้าวสำคัญในทางการเมือง

หาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ไม่เว้น

นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ อาจประสบเข้ากับชะตากรรมของ”คนเสื้อแดง”ที่แทบไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่า การถูกกระทำเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 จะคลี่คลายไปอย่างไร

ปล่อยให้บรรดาคนซึ่งก่อกรรมทำเข็ญกับชาวบ้านซึ่งมีแต่ 2 มือเปล่าถูกยิงด้วยสไนเปอร์ตายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่มีการขุดค้นความเป็นจริงออกมากระนั้นหรือ

ในฐานะเลขาธิการนปช. ในฐานะที่เคลื่อนไหวเพื่อให้มีการดำเนินคดีอย่างแทบไม่มีความหวังอะไรเลย เมื่อเข้ามาอยู่ในสถานะแห่งผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยจะทำอย่างไร

ก่อนอื่นพรรคเพื่อไทยจะทำอะไรที่เป็น”รูปธรรม”ซึ่งจะสร้าง ความมั่นใจให้กับ”คนเสื้อแดง”ได้หรือไม่ว่าพวกเขาจะไม่ถูกทิ้งเท้ง เต้งเหมือนที่เคยเป็นมา

ท่าทีของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ท่าทีของครอบครัวเพื่อไทย เมื่อ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ลงไปพบกับ”คนเสื้อแดง”จะปรากฏออกมาอย่างไร นี่ย่อมเป็นคำถาม

เป็นคำถามเหมือนกับที่กำลังถาม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

 

เพียงแต่คำถามต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มิได้อยู่เพียงเรื่องของดนตรีในสวน และมิได้อยู่เพียงเรื่องของหนังกลางแปลง หากแต่กำลังรุกคืบไปยัง โรงงานกำจัดขยะ ไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียว

โดยเฉพาะบทบาทของ”กรุงเทพธนาคม”จะเป็นอย่างไร

การที่มีการทำสัญญาณล่วงหน้าไปถึง 10 ปีไม่ว่าโรงงานกำ จัดขยะ ไม่ว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทะลุไปถึงปากน้ำ ทะลุไปถึงเมืองปทุม มีเส้นสนกลในซับซ้อนจริงหรือไม่

ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์ คนที่เคยเลือก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กว่า 1.3 ล้านคะแนนเสียง ล้วนต้องการคำตอบด้วยความระทึกใจ

นี่ย่อมเป็นคำถามร่วมพุ่งตรงไปยัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ยิ่งวันจะยิ่งทวีความร้อนแรงหากไม่มีคำตอบเป็นที่พอใจ

 

จึงเด่นชัดมากยิ่งขึ้นว่า การได้เป็นผู้ว่าฯกทม.พร้อมกับกว่า 1.3 ล้านคะแนนเป็น”รายรับ” จึงเด่นชัดมากยิ่งขึ้นว่า การได้เป็นผู้อำ นวยการครอบครัวเพื่อไทยเป็น”รายรับ”

กระนั้น ภายใน”รายรับ”ก็ย่อมมี”รายจ่าย”ตามมา

เป็นรายจ่ายที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จักต้องมีคำชี้แจง เป็น รายจ่ายที่ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จักต้องมีความคืบหน้า

นี่คือการดำรงอยู่บนฐานแห่งความเป็น”การเมือง”เด่นชัด