E-DUANG : ผลสะเทือน เปิดพื้นที่ ชุมนุม ก้าวใหม่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

แนวโน้มเด่นชัดยิ่งว่า กรณีไฟไหม้ชุมชนบ่อนไก่ กับ กรณีการเปิด 7 จุดชุมนุม โดยมีการชุมนุม 24 มิถุนายน ณ ลานคนเมือง เป็นการประเดิม

ได้กลายเป็นจุดประลองกำลังครั้งสำคัญในทาง”ความคิด”และในทาง”การเมือง”

เพราะพลันที่เกิดสถานการณ์ไฟไหม้ขึ้นในชุมชนบ่อนไก่ ไม่เพียงแต่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะซ้อนมอร์เตอร์ไซค์ของเทศกิจเข้าไปยังพื้นที่ที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วเท่านั้น

คล้อยหลังจากนั้นไม่นานก็มีกำลังพลจากกองพลทหารม้าที่ 2 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เดินทางเข้าไป และมีการปรากฏตัวขึ้น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ทั้งนี้ ไม่นับการเดินทางลงพื้นที่ของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

ขณะเดียวกัน กระแสการด้อยค่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็เกิดขึ้น อย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการ

ประสานกับการตั้งข้อสังเกตในเรื่องการไลฟ์ว่าสะท้อนบท

บาทของการทำประชาสัมพันธ์ในลักษณะ”ล้นเกิน” ทำลายหลัก การ”ปิดทองหลังพระ”ไปอย่างสิ้นเชิง

ยิ่งเมื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เปิดจุดชุมนุมในพื้นที่ของกรุง เทพมหานครยิ่งสร้างความร้อนแรงในเชิงวิพากษ์

 

อย่าได้แปลกใจในบทบาทของพรรคไทยภักดีอันมี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นผู้นำ ซึ่งสวนทางอย่างสิ้นเชิงกับคำประกาศจากการ ชุมนุมของ”คณะราษฎร 2563”

ประการสำคัญเป็นอย่างมากยังเป็นการมองและประเมินบท บาทของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในทางการเมือง

แม้แนวทางเปิดพื้นที่การชุมนุมของกรุงเทพมหานครโดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะสร้างความขุ่นเคืองบ้างจากบางส่วนของผู้ชุมนุม แต่กล่าวสำหรับผู้ยืนอยู่ตรงกันข้าม หลับหงุดหงิดมากกว่า

เพราะพลันที่มีประกาศจากกรุงเทพมหานครก็ส่งผลให้การชุมนุมสามารถเดินหน้าไปได้ ขณะที่บทบาทของตำรวจก็ลดลง

ความหงุดหงิดทั้งหมดจะรวมศูนย์สู่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

 

แท้จริงแล้ว กรอบแห่งการกำหนดพื้นที่การชุมนุมของกรุงเทพมหา นคร โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มิได้เปิดให้ชุมนุมอย่างเสรี ตรงกันข้าม กำหนดให้อยู่ภายในขอบเขตของกฎหมาย

นั่นก็คือ เป็นการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ โดยมิได้ใช้ความรุนแรง อันเป็นไปตามบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

ในอีกด้านจึงเท่ากับเป็นการทบทวนมาตรการในอดีต

นับจากวันที่ 24 มิถุนายนเป็นต้นไปจึงเท่ากับเป็นการเริ่มบทใหม่ของการชุมนุมว่าจะดำเนินไปอย่างไร มากน้อยเพียงใด

กรุงเทพมหานครจึงมีโอกาสได้ทั้ง”ดอกไม้”และ”ก้อนอิฐ”