E-DUANG : มองผ่าน ปรากฏการณ์ ชัชชาติ ไปยัง ธาตุแท้ ความเป็น “จริง”

ชัยชนะบนพื้นฐาน 1.3 กว่าล้านคะแนนเสียงที่คนกรุงเทพฯมอบให้กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กำลังเป็น”กรณีศึกษา”อันร้อนแรงใน ทางการเมือง

คำถามก็คือ ความสำเร็จของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เช่นนี้มี รากฐานและความเป็นมาอย่างไร

เนื่องจากฐานการเมืองของ”เพื่อไทย”อย่างนั้นหรือ

ตรงนี้ไม่เพียงแต่ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จะต้องสนใจ หาก นายสกลธี ภัททิยกุล ก็ต้องสงวรอย่างเป็นพิเศษ

ในเบื้องต้นคนที่เคยมองว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำรงอยู่ในลักษณะแห่ง”อีแอบ”ให้กับพรรคเพื่อไทย อาจคิดเช่นนั้น แต่เมื่อมองแต่ละก้าวย่างภายหลังเป็น”ผู้ว่าฯ”แล้วก็เริ่มไม่แน่ใจ

เป็นความจริงที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เข้าสู่การเมืองเพราะพรรคเพื่อไทยให้โอกาส โดยเฉพาะในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชิน วัตร ที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐมนตรี”คมนาคม”

จากสถานะรัฐมนตรี”คมนาคม”นั้นเองทำให้ชื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ อยู่ในระดับ”ติดลมบน”ในทางการเมือง

เป็นการติดลมบนเพราะกระแส”ต้าน”และ”ด้อยค่า”

 

ขอให้มองตั้งแต่การยกเอา”ถนนลูกรัง”มาเพื่อขวางมิให้เดินหน้ารถไฟความเร็วสูง ขอให้มองตั้งแต่การลงมือทำรัฐประหารเพื่อโค่น รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ความหมายอันลึกซึ้งอย่างยิ่งก็คือ การโค่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เท่ากับเป็นการโค่น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไปด้วย

จากเดือนพฤษภาคม 2557 เรื่อยมาจนถึงการเลือกตั้ง”ผู้ว่าฯ กทม.”ในเดือนพฤษภาคม 2565 จึงเป็นห้วงเวลาอันทรงความหมายสำหรับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ที่สำคัญก็คือ การคิดค้นนวัตกรรมทางการเมืองภายใต้คำขวัญ”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”กระทั่งประสบชัยชนะในสนามเลือก ตั้งและกลายเป็นอาวุธในทางการเมือง

หากไม่ประสานคำประกาศ”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”อย่าง

เป็นเอกภาพกับ”การปฏิบัติ”ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ไม่เข้าใจ

 

ไม่ว่าจะมองมาจากภายใน”ทำเนียบรัฐบาล” ไม่ว่าจะมองมาจากภายใน”พรรคพลังประชารัฐ” ไม่ว่าจะมองมาจากภายใน”พรรคเพื่อไทย”

ก็จะเห็นเพียง”ปรากฏการณ์”จับไม่ได้ถึง”ธาตุแท้”ที่เป็นจริง

อยู่ๆคนกรุงเทพฯคงไม่ไว้วางใจ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ในระดับนี้หากไม่ได้เห็นความเป็นจริงจากการลงมือ”กระทำ”