พลันที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับคะแนนเสียงกว่า 1.3 ล้านคะแนนของชาวกรุงเทพมหานคร นวัตกรรมสำคัญที่ปรากฏตัวขึ้นด้วยคือ กระบวนการใหม่ใน”การนำ”

โดยพื้นฐานของการนำจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่น แต่ถามว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สร้างความเชื่อมั่นจากรากฐานอะไร

คำตอบเฉพาะหน้าอาจอยู่ที่ “ทำงาน ทำงาน ทำงาน”

นี่จึงเป็นการสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญซึ่งมิอาจตั้งอยู่บนฐานแห่ง “คำประกาศ” อย่างด้านเดียว หากแต่จำเป็นต้องสร้างเอกภาพระหว่าง”คำพูด”กับ”การทำ”

แม้ในระหว่างการหาเสียง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จะยืนยันจุดเด่นของตนว่ามิได้อยู่ที่”การพูด”หากแต่อยู่ที่”การทำ”

พลันที่ผลการเลือกตั้งปรากฏภาพเทียบเปรียบก็บังเกิด

ไม่ว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะไป ณ ที่ใดของกรุงเทพมหานคร บนคลองลาดพร้าว ที่แยกมไหศวรรย์ ความ เป็นจริงจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็สำแดงกัมมันตะออกมา

กัมมันตะนั้น ทางหนึ่ง ฉายภาพ”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”โดด เด่นเป็นสง่า ขณะเดียวกัน ทางหนึ่ง เท่ากับสะท้อนภาพ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ออกมาอย่างเด่นชัด

ความน่ากลัวจากปรากฏการณ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็คือพลานุภาพของมันนับวันยิ่งแผ่ไพศาลกลายเป็นระเบิดลูกใหญ่

 

ความพิเศษอย่างยิ่งก็คือ ระเบิดที่ชื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำรงอยู่ภายใต้องค์ประกอบแห่งความอ่อนน้อมถ่อมตน ยืนหยัดในหลักการแห่งตนอย่างมั่นแน่วและยืดหยุ่น

เห็นได้จากความพร้อมที่จะพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และการพบมาแล้วกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

แม้ว่าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 คนเหล่านี้จะมีส่วนอย่างสำคัญในการเปล่งคำประกาศและบัญชาให้คลุมถุงดำที่ศีร ษะของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มาแล้ว

แม้ว่าโดยกระบวนการก่อนและภายหลังรัฐประหารเมื่อเดือน พฤษภาคม 2557 จะส่งผลสะเทือนต่อฐานะตำแหน่ง การดำรงอยู่

กระนั้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ยัง”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”

 

ความสามารถในการประสาน “ความคิด”ซึ่งเป็นเรื่องในทางนาม ธรรมให้กลายเป็น”การปฏิบัติ”ในทางรูปธรรมผ่านกระบวนการของ”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”ต่างหากคืออำนาจ

อำนาจอันทำให้ได้เป็น”ผู้นำ”โดยไม่จำเป็นต้อง”ประกาศ”

ความพยายามใดๆในการด้อยค่าจากปรปักษ์ทางการเมืองอาจเกิดขึ้น แต่ก็เหมือนเสียงหวี่ๆของแมลงที่บินโดยรอบเท่านั้น

เพราะ”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”คืออนานุภาพอย่างแท้จริง