E-DUANG : สถานะ ของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทะลุผ่าน ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ปฏิบัติการ”ไลฟ์”อย่างชนิดไม่มีวันหยุดของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นำไปสู่คำถามที่ว่า “โอเวอร์ พีอาร์”หรือ

เหมือนกับก่อนหน้านี้เตือนให้ระวัง”ลัทธิบูชาตัวบุคคล”

โดยพื้นฐานเพราะประเมินว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะใช้จุดได้เปรียบในห้วงแห่งการหาเสียงที่เดินพบประชาชนภายใต้คำขวัญ”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”มาเป็นประโยชน์

คำถามอยู่ที่ว่าภายใต้แนวทาง”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”อย่างไม่แสดงความเหน็ดเหนื่อย ตั้งแต่ 03.30 น.กระทั่ง 20.00 น.ผลประโยชน์นี้จะตกเป็นของใคร

อาจเหมือนกับเป็น”การสร้างภาพ”ให้กับความขยันและพลังที่มากด้วยความแข็งแกร่งของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แต่ภายใต้กฎเกณฑ์นี้กรุงเทพมหานครขยับ ขับเคลื่อนหรือไม่

เมื่อมีการสอบถามผลจากปฏิบัติการเช่นนี้จากผู้สื่อข่าวที่ติด ตาม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ตั้งแต่ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม ต่างยอมรับตรงกันว่าก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

อย่างน้อยก้าวย่างของ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ก็วางพื้นฐานอยู่กับ”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”อย่างเป็นจริง

มิได้เข้าลักษณะของนักการเมืองซึ่ง”ดีแต่พูด”แต่ไม่ลงมือทำ

ความอ่อนไหวเป็นอย่างมากก็คือ ความอ่อนไหวจากสถานการณ์ ที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ยึดครอง”พื้นที่”ข่าว พื้นที่ทางการเมือง อย่างค่อนข้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

มีความเหนือกว่าข่าวของ”แตงโม” มีความเหนือกว่าข่าวการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ

ยิ่งเมื่อนำกระบวนการ”ไลฟ์”ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไปวางเรียงเคียงกับดาวไลฟ์ไม่ว่า “พิมริพาย” ไม่ว่า ไพรวรรณ วรรณ บุตร ถือว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะขาด

ผลสะเทือนเฉพาะหน้าคือ การไลฟ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และการนำเอากิจกรรม”ดนตรีในสวน”ไปอยู่ในมือของ กรมดุริยางค์ทหารบก

มีคำถามว่า ตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมเต้นเหมือนที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ เต้นก็ยากจะเทียบได้

มีความจำเป็นต้องตั้งคำถาม มีความจำเป็นต้องดำเนินการตรวจ สอบ ไม่ว่าจะในประเด็นว่าด้วย”โอเวอร์ พีอาร์” ไม่ว่าจะในประเด็นว่าด้วย”ลัทธิบูชาตัวบุคคล”

รวมถึงที่มีการตั้งความหวังไปถึงตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี”

สถานะทางการเมืองในเชิง”ปฎิมา”ของ นายชัชชาติ สิทธิ พันธุ์ ทะลุตำแหน่งตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี”ไปแล้ว

ทั้งหมดจากการ”สร้างภาพ” หรือจาก”การทำงาน”