E-DUANG : บทเรียน จาก “สุราก้าวหน้า” กับ กระบวนการ “พันธมิตร”

ชัยชนะยกที่ 1 จากร่างกฎหมาย”สุราก้าวหน้า สุราประชาชน”นำบทเรียนมาให้กับ”ก้าวไกล”เป็นอย่างสูง

ไม่เพียงเป็นบทเรียนในการยืนหยัด จุดประกายความหวัง

หากที่สำคัญเป็นอย่างมาก ยังเป็นบทเรียนในการทำงานขับเคลื่อนอย่างที่เรียกว่า”มวลชน”อย่างแนบแน่นและต่อเนื่องเป็นพิเศษ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมวลชนที่เรียกตนเองว่า”ประชาชนเบียร์”ที่อยู่กับสภาพความเป็นจริง

ยิ่งกว่านั้น ยังมีการหยิบยกคำว่า”ดีล”ขึ้นมาเป็นประเด็น

เมื่อเห็นการอภิปรายสนับสนุนไม่ว่าจะจาก นายวีระกร คำ ประกอบ แห่งพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะจาก นายเกียรติ สิทธี อมร จากพรรคประชาธิปัตย์

หรือแม้กระทั่งจาก นายชาดา ไทยเศรษฐ์ จากพรรคภูมิใจไทย

ยิ่งเห็นการลงคะแนนเห็นชอบจำนวนมากถึง 23 จากพรรค

ประชาธิปัตย์ ประสานกับ 16 เสียงจากพรรคเศรษฐกิจไทยยิ่งเกิดอาการตื่นตะลึง

คำถามก็คือ นี่เป็นผลจากกระบวนการ”ดีล” หรือเป็นเพราะประทับใจในฐานข้อมูลที่เป็นจริง

 

ต้องยอมรับว่าสภาพการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน การสร้างพันธมิตรในแนวร่วมมีความสำคัญและทรงความหมายเป็นอย่างสูงในการขับเคลื่อนแต่ละหมุดหมาย

ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรภายในแนวร่วม”ฝ่ายค้าน”ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรข้ามสายในกลุ่มของ”รัฐบาล”

สภาพความเป็นจริงที่พรรคก้าวไกลเสนอร่างกฎหมาย”สุรา ก้าวหน้า สุราประชาชน” หากไม่มีพลังหนุนจากทั้งฝ่ายค้านและ บางส่วนของรัฐบาลก็ยากยิ่งที่จะประสบความสำเร็จ

คำถามอยู่ที่ว่าการสร้างพันธมิตรในแนวร่วมวางพื้นฐานอยู่กับหลักคิดใดในทางการเมือง เป็นหลักคิดที่”สามานย์”หรือเป็น หลักคิดที่ “สร้างสรรค์”

นั่นก็ขึ้นอยู่กับ”เนื้อหา”ที่จะนำไปเสนอในกระบวน”ดีล”

 

พรรคก้าวไกลน่าจะได้รับบทเรียนเป็นอย่างสูง 1 จากการยืนหยัด ของพรรคก้าวไกลที่สืบทอดนโยบาย”สุราก้าวหน้า สุราประชาชน” มาจากการริเริ่มของพรรคอนาคตใหม่

1 จากการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของ ส.ส.

คำว่า ส.ส.ในที่นี้มีความหมายจำเพาะถึง นายเท่าพิภพ ลิ้ม จิตรกร และสะท้อนความเป็นเอกภาพภายใน”ก้าวไกล”

      การยืนหยัดในแนวทางที่ถูกต้องจึงนำมาซึ่งความสำเร็จ