เผยแพร่ |
---|
ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้ขุนพลจากพรรคประชาธิปัตย์ให้ความ สนใจต่อแต่ละจังหวะก้าวของพรรคก้าวไกลอย่างเป็นพิเศษ
ไม่ว่าจะเป็น นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีตพิธีกรโทรทัศน์
ไม่ว่าจะเป็น นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ศิษย์สายตรงจากสำนักกฎหมาย นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ
แม้ปลายหอกจะพุ่งตรงเข้าใส่ยอดอกของ นายพิธา ลิ้มเจริญ รัตน์ หัวหน้าพรรค ประสานเข้ากับการหยามหยันต่อคำแถลงของ นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคใหม่หมาด
ว่าด้วยความไม่เข้าใจต่อ”ระบบรัฐสภา” ว่าด้วยความเพ้อฝันที่จะทำทันทีต่อ กฎหมายสมรสเท่าเทียมกัน ต่อกฎหมายการเกณฑ์ทหาร ต่อกฎหมายสุราประชาชน
หากไม่เข้าใจความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ก็จะมองเห็นประเด็น ในทางกฎหมายอันเป็นเสมือนกับม่านควัน เพราะแท้จริงแล้วภายใน
ความหงุดหงิดที่ดำรงอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์นั้น
เป็นความสืบเนื่องจากการเปิดตัว นายพริษฐ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย มากกว่า
ต้องยอมรับว่าการเข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์ก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ของ นายพริษฐ วัชรสินธุ สร้างสีสันให้กับพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างมาก
ไม่เพียงเพราะถอด”พิมพ์เขียว”มาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างชนิดก้าวต่อก้าว
หากแต่โดยกลิ่นอายแห่งการเป็นบัณฑิต เศรษฐศาสตร์ การเมือง ปรัชญา มาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ที่มาพร้อมกับการจัดตั้งกลุ่มนิวเด็มได้กลายเป็น”ความหวัง”
แต่แล้วเมื่อการเลือกตั้งผ่านพ้นโดยที่พรรคประชาธิปัตย์สูญพันธุ์ในพื้นที่กรุงงเทพมหานคร และตามมาด้วย นายพริษฐ์ วัชริสนธุ ลาออก จึงเป็นรอยแผลที่ดำรงอยู่ภายในพรรคประชาธิปัตย์
พลันที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ปรากฏตัวในฐานะผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย ในที่ประชุมใหญ่ประจำปีของพรรคก้าวไกล จึงเท่ากับเป็นการสะกิดแผล
ยิ่งเมื่อเห็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศ”ทำได้ทันที”
จึงยิ่งทำให้บรรดาเบบี้ บูมเมอร อย่าง นายบุญยอด สุขถิ่นไทย และ นายราเมศ รัตนะเชวง บังเกิดอาการหงุดหงิดและงุ่นง่าน
จึงสะท้อน”ริษยา”ของ”ชนชั้นกลาง”ออกมาเต็มพิกัด อัตรา