ไม่ว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เบอร์ 6 ไม่ว่า นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เบอร์ 4 ไม่ว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เบอร์ 1 ไม่ว่า นายชัช ชาติ สิทธิพันธุ์ เบอร์ 8

หลังไปร่วมออกรายการ”ดีเบต”ของทีวีช่อง 3 มาแล้วจำเป็นต้องกลับมาทบทวนอย่างจริงจัง

เพราะคล้อยหลังการดำเนินรายการก็ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่ความร้อนแรงของการดีเบตได้ก่อให้เกิด”กระแส”ถกเถียงในทางการเมืองอย่างร้อนแรง

เห็นได้จาก#ผู้ว่ากรุงเทพฯได้ทะยานไปอยู่ในอันดับของเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว

เป็นความรวดเร็วที่เทรนด์ทางการเมืองได้หล่นหายไปยาวนาน

นั่นไม่เพียงเพราะเป็นรายการสดของทีวีช่อง 3 หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังเนื่องเพราะพิธีกรคือ สรยุทธ์ สุ่มทัศนจินดา และพี่

หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย

ยิ่งกว่านั้น ยังมีการตระเตรียม “ตัวบุคคล”ซึ่งเป็น”ฐานข้อมูล”มารองรับอย่างหนักแน่นและจริงจัง

 

ลำพังเพียงการคัดสรรผู้สมัครชิง”ผู้ว่าฯกทม.”เหลือ 4 คนจากทั้งหมด 31 คนก็เด่นชัดอย่างยิ่งแล้วเป็นการคัดสรรตามคะแนนและ ความนิยมที่ปรากฏอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะเป็นจาก”นิด้าโพล” ไม่ว่าจะเป็นจาก”ธรรมศาสตร์โพล” ไม่ว่าจะเป็นจากที่กระทำผ่าน”โซเชียลมีเดีย”

นั่นก็คือ เหลือเพียง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เบอร์ 1 เหลือเพียง นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เบอร์ 4 เหลือเพียง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เบอร์ 8 และ เหลือเพียง นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ เบอร์ 4

เมื่อผ่านการดีเบต ผ่านคำถามจากพิธีกรของรายการ คำตอบก็คัดสรรให้เหลือแคนดิเดต”ผู้ว่าฯกทม.”ออกมาอย่างเด่นชัด

จาก 4 ก็เหลือเพียง 2 และจาก 2 ก็ต้องเหลือเพียง 1

 

ต้องยอมรับสถานการณ์”ดีเบต”ดำเนินไปอย่างมีการคัดสรรเพื่อเสาะหาตัวผู้เหมาะสมที่สุดซึ่งชาวกรุงเทพมหานครจะตัดสินใจในวัน อาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม

ไม่ว่าจะพิจารณาจาก”นโยบาย” ไม่ว่าจะพิจารณาจาก”เสียง”

บทบาทของผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่ง”ผู้ว่าฯกทม.”ย่อมอยู่ในสายตาอันคมกริบของชาวกรุงเทพมหานคร

สายตาอันคมกริบของชาวกรุงเทพมหานครนี่แหละสำคัญ