เผยแพร่ |
---|
สนามเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพรและสงขลาอาจเร้าใจเป็นอย่างสูงเรียก ร้องให้พรรคพลังประชารัฐจำเป็นต้องมีมติสรรหาคนลงสมัครเพื่อชิง ชัยกับพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่พรรคภูมิใจไทยเห็นว่ายังไม่จำเป็น เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่แทบไม่ถือว่าภาคใต้เป็นเป้าหมายหลักของตน
เหตุผลของพรรคภูมิใจไทยก็ดำเนินไปอย่างเดียวกับเหตุผลของพรรคชาติไทยพัฒนา เนื่องจากพื้นที่ชุมพรและสงขลาเป็นของพรรค ประชาธิปัตย์เดิมจึงมีเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยง
ส่วนเหตุผลของพรรคเพื่อไทยมาจากสภาพความเป็นจริงที่ภาค ใต้มิได้เป็นพื้นที่เป้าหมาย และมองไม่เห็นโอกาสที่จะเบียดแทรกเข้าไปจึงนิ่งเฉยและไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง
ทั้งหมดนี้จึงต่างจากคำประกาศของพรรคก้าวไกล แม้ว่าจะไม่มีส.ส.เขตแม้แต่คนเดียวในภาคใต้ แต่เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมในชุม
พรและสงขลาก็ยืนยันที่จะส่งคนของตนลง
พรรคก้าวไกลมิได้เป็นพรรคใหม่ในแบบพรรคกล้า พรรคไทยภักดี คำถามก็คือมีเหตุผลอะไรที่จะต้องส่งคนลงสมัครด้วย
จังหวะก้าวทางการเมืองของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งซ่อมไม่ว่าจะที่ชุมพร ไม่ว่าจะทีสงขลา ก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่คณะก้าวหน้าส่งคนลงชิงอบจ. ชิงเทศบาล ชิงอบต.
ถามว่าทั้งๆที่ไม่ได้รับเลือกในสนามอบจ.แม้แต่คนเดียว เหตุใดจึงยังเดินหน้าส่งคนลงเทศบาล ส่งคนลงอบต.อีกเล่า
หากมองจากเกจิทางการเมืองนี่ย่อมเท่ากับ”เลื่อยขี้เลื่อย”
เหมือนกับในพื้นที่ชุมพร เขต 1 ในพื้นที่สงขลา เขต 6 รู้ทั้งรู้ว่าอยู่ในความยึดครองของพรรคประชาธิปัตย์และมีแต่พรรคพลังประชารัฐเท่านั้นที่มีความพร้อมอย่างเพียงพอ
แต่พรรคก้าวไกลก็”ไร้เดียงสา”อย่างเพียงพอที่จะส่งลงสมัครใน
ท่ามกลางการประกาศหาสมาชิกให้เต็ม 100 คนในพื้นที่
หากมองผ่านบทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประสานเข้ากับบทบาทของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตั้งแต่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ กระทั่งกลายมาเป็นพรรคก้าวไกลก็จะเข้าใจ
เนื่องจากเป้าหมายของพรรคก้าวไกลคือ ปฏิบัติการ”ปักธง”ในทาง”ความคิด” คือ ผู้คนและการเดินทาง
จึงมิได้คาดหวังเฉพาะหน้าหากคาดหวังอย่างยาวไกล