E-DUANG : รากฐาน จาก “หลวงพี่ไพรวัลย์” ในฐานะ อาวุธ แห่ง พุทธธรรม

อุบัติแห่งการสึกหาลาพรตของ พระมหาไพรวัลย์ วรวรรโณ มาเป็น นายไพรวัลย์ วรรณบุตร ก่อให้เกิด”ปรากฏการณ์”ตามมาโดยมิได้อยู่ เหนือความคาดหมาย

สัมผัสได้จากความสนใจจาก”สื่อ”จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสื่อเก่าอย่างโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นสื่อใหม่อย่างออนไลน์

มีการรายงานในบรรยากาศเดียวกันกับ”ดารา”และ”เซเล็บ”

ทั้งๆที่โดยพื้นฐาน นายไพรวัลย์ วรรณบุตร คือเด็กจันทบุรีที่เกิดในครอบครัวชาวนา และที่ต้องบวชเป็นสามเณรก็มาจากความยากจนแต่ต้องการเล่าเรียน

การศึกษาเล่าเรียนในทางปริยัติจากสำนักบาลีในอารามนั้นเองเป็นช่องทางให้ สามเณรไพรวัลย์ วรวรรโณ สอบได้ในขั้นเปรียญธรรม 9 ประโยคกลายเป็น พระมหาไพรวัลย์ วรวรรโณ ในที่สุด

จากนั้น ก็ได้ใช้วิชาความรู้ในการแสดงธรรมและออกความเห็น 

ไม่เพียงสร้างปรากฏการณ์ในทางสังคม หากแต่ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงเมื่อไลฟ์สดก็มีคนติดตามเป็นแสน

จากที่เคย”โนเนม”ก็กลายเป็น”เซเล็บ”ในระดับ”ดารา”

 

มีคนจำนวนมากชมชอบต่อบทบาทของ พระมหาไพรวัลย์ วรวรรโณ เมื่อมีการแสดงธรรมที่สามารถแปรเรื่องยากๆหรือขมๆให้กลายเป็น เรื่องที่สามารถเข้าใจได้ผ่านอารมณ์ขัน

กระนั้น อารมณ์ขันอันมาพร้อมกับเสียงหัวเราะของท่านก็มิได้ดำรงอยู่อย่างเลื่อนลอยและเบาวหวิว

ตรงกันข้าม มีรากฐานมาจาก”พุทธธรรม”และความเป็นจริง

ความเป็นจริงอย่างที่ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร วิพากษ์สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติที่ว่า พวก”หัวดำ”ต้องการเข้ามากดหัวและควบคุมพวก”หัวโล้น”

โดยละเลยความปรารถนาโดยพื้นฐานของพระเณรว่า อยากให้ 

มาเป็นตัวแทนและให้ความช่วยเหลือ คุ้มครอง อย่างเจตนา

 

บทบาทที่ปรากฏ ไม่ว่าจะผ่านกระสวนในแบบ พระมหาไพรวัลย์ วร วรรโณ ไม่ว่าจะผ่านกระสวนในแบบ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร จึงเป็น การประสานรูปแบบและเนื้อหาเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน

กลมกลืนและอนุวัติไปตามสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคม

บทบาทนี้มิได้ดำรงอยู่อย่างไร้รากฐาน ตรงกันข้าม อัดแน่นด้วยความรอบรู้ ความเข้าใจและการปรับประสานที่เป็นจริงกับแต่ละสภาพการณ์

เป็นบทบาทในฐานะ”เครื่องมือ”อย่างเป็น”อาวุธ”แหลมคม