เผยแพร่ |
---|
อาจเพราะเห็นว่าอยู่ในเพศแห่งสมณะตั้งแต่เป็น”เณร”กระทั่งเป็น”พระ”ยาวนานต่อเนื่องมา 18 ปี การมองต่อสถานะแห่ง พระมหาไพรวัลย์ วรวัณโณ จึงค่อนข้างเป็นการมองและประเมินที่ต่ำ
ไม่เพียงแต่ต่ำจากสภาพความเป็นจริง หากยังเป็นการมองเห็นแต่ด้านที่ “ไร้เดียงสา” ไม่รู้เรื่องราวทางโลก
เมื่อประเมิน “ต่ำ” จึงคิดว่าจะกระทำย่ำยีอย่างไรก็ได้
เห็นได้จากปฏิบัติการบ่อนทำลายด้วยการสร้างและปล่อยข่าวว่า การสึกของ พระมหาไพรวัลย์ วรวัณโณ เป็นการสึกพร้อมกับหอบ เงินไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทไปด้วย
คล้อยหลังการสร้างและปล่อยข่าวลักษณะนี้ออกไปอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการไม่กี่ชั่วโมง คนที่สร้างและปล่อยข่าวนี้ก็ประ สบกับฤทธิ์เดชจาก พระมหาไพรวัลย์ วรวัณโณ
สะท้อนให้เห็นว่า “หลวงพี่”มิได้เป็น”ละอ่อน”อย่างที่คิด
เห็นได้จากข้อความที่มีการนำออกเผยแพร่ผ่านเพจ พระมหาไพรวัลย์ วรวรรณโณ ที่ตัดคำว่า”พระมหา”ออกไป
ต้องยอมรับว่า “หลวงพี่”มากด้วย “เขี้ยวเล็บ”ครบครัน
โดยการดำรงอยู่ในสมณเพศต่อเนื่องและยาวนานร่วม 18 ปี พระมหาไพรวัลย์ วรวรรโณ ยากยิ่งที่จะยืนยันได้ว่าเจนจบในเรื่องทาง โลกอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน
แต่นั่นก็มิได้หมายความว่าไม่มี”ความเฉลียว”ดำรงอยู่
อย่างน้อยคนที่สามารถสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยคตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ก็ย่อมจะต้องมีความรอบรู้จากการเรียนในด้านอื่นประ สานเข้าไปด้วย
เพราะว่าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เน้นอย่างหนักแน่นในวิธีวิทยาอย่างที่เรียกว่า “โอปนยิโก” ประสานธรรมเข้ากับตน
อย่างน้อยโดยความเป็นนักอ่านในระดับ”บรม”ย่อมผ่านทั้งใน
เรื่องโลกและในทางธรรมมาในระดับที่แน่นอนหนึ่ง
การอำลาจากโลกแห่ง”ธรรม”เข้าไปอยู่ในโลกอันต่ำช้าของ พระมหา ไพรวัลย์ วรวรรโณ จึงมิได้เป็นเรื่องของ”อุบัติเหตุ”หากแต่ได้ผ่านการไตร่ตรอง ครุ่นคิดมาพอสมควร
ตระหนักรู้และสรุปโดยพื้นฐานว่าจะต้องประสบกับ”มรสุม”ประเภทใดบ้างในทางความคิดและในทางการเมือง
เห็นได้จากกรณี 300 กว่าล้านบาทก็เห็นชัดว่าไปโลดได้เช่นใด