การปรากฏเงาร่างของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ยืนอยู่เรียงเคียงข้างกับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในการชี้แจงและทำความเข้าใจต่อเนื้อหาในร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

เป็นปรากฏการณ์ที่กำลังสร้างความตื่นตลึงเป็นอย่างสูงยิ่งในทางการเมือง

ไม่เพียงเพราะว่าความเคยชินอย่างหนึ่งของสังคมก็คือ เมื่อเห็นเงาร่างของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็บังเกิดนัยประหวัดไปยังเงาร่างของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

อย่าได้แปลกใจหากภายในองค์ประกอบของ”กลุ่มรี-โซลูชั่น”มิได้มีแต่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล หากยังมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกุล รวมอยู่ด้วย

เพียงแต่ที่ยืนอยู่แถวหน้าเป็น นายปิยบุตร แสงกนกกุล เท่านั้น

ขณะเดียวกัน กล่าวสำหรับ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ก็มิได้มาเพียง

คนเดียว ตรงกันข้าม ยังตามมาด้วยอีกหลายคน

คนหนึ่งก็คือ นายฟูอาดี้ พิศสุวรรณ ซึ่งเก็บตัวเงียบๆ และอีกคนหนึ่งก็คือ นายกษิต ภิรมย์

ความจริงการร่วมในเรื่องรัฐธรรมนูญกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ของ นายกษิต ภิรมย์ มิได้ผ่าน”รี-โซ ลูชั่น”เป็นครั้งแรก

หากแต่เคยร่วมเวทีในการเสวนากับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาก่อนหน้านี้แล้วที่เชียงใหม่

แต่ก็เป็นการร่วมอยู่มีระยะ”ห่าง” พอสมควร

ตรงกันข้าม กรณีของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กลับเป็นการร่วมกับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อย่างชนิดหัวชนหัว ไหล่ชนไหล่ สมองชนสมอง

ขณะเดียวกัน เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่ประชุมรัฐสภาความโดดเด่นของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ก็เริ่มปรากฏอย่างเป็นที่ประจักษ์

ในห้วงเวลาที่ทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ตรกอยู่ในกรงขังแห่งการถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปีคำถามต่อบทบาทของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ จึงดังกึกก้อง

เป็นคำถามบนพื้นฐานที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ได้หลุดออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์แล้วอย่างสมบูรณ์ พร้อมกับการหมดบทบาท ของ”นิวเด็ม”ในพรรคประชาธิปัตย์

คำถามถึงก้าวต่อไปทางการเมืองของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ