เผยแพร่ |
---|
การแสดงออกของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ต่อการอำลาจากไปของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กับการเข้ามาในตำแหน่งหัวหน้าพรรคของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
เป็นการยอมรับต่อเยื่อใยและไมตรีอันมีอย่างเต็มเปี่ยมระหว่าง”ผู้เยาว์”ต่อ”ผู้อาวุโส”อย่างงดงาม
เป็นความงดงามแห่งการดำรงอยู่ของ”ภราดรภาพ”ความรู้สึก
นั่นก็คือ ความอบอุ่นที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุลและพรรคอนาคตใหม่เคยได้รับไมตรีและการช่วยเหลือจาก นายสมพงษ์ อมรวิ วัฒน์ นั่นปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม
มิได้ดำรงอยู่เสมอเป็นเพียง”โวหาร”อันว่างเปล่าไร้การ”ปฎิบัติ”
ขณะเดียวกัน เยื่อใยและความอาทรจากรุ่นพี่อย่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เคยมีต่อส.ส.รุ่นใหม่ของพรรคอนาคตใหม่และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็เป็นความตรึงตราไม่เคยลืมเลือน
แม้พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบไปแล้ว แต่เยื่อใยนั้นก็ต่อเนื่องมายังพรรคก้าวไกลอย่างไม่แปรเปลี่ยน
ไมตรีเหล่านี้ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลนั้นงดงาม
ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลเด่นชัดยิ่งว่ามีทั้งความเหมิอนและความต่างอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ดำเนินไปเหมือนกับเป็นพันธ มิตรในแนวร่วมประชาธิปไตย
พรรคเพื่อไทยมีประวัติศาสตร์อันเป็นความต่อเนื่องมาจากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ย่อมมีขนบมีวัฒนธรรมตน
เป็นวัฒนธรรมอันตัดไม่ขาดไปจากพรรคไทยรักไทย เป็นวัฒนธรรมอันตัดไม่ขาดไปจากพรรคพลังประชาชน และหล่อหลอมมาเป็นพรรคเพื่อไทยอย่างที่เห็นและเป็นอยู่
ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกลแม้จะเป็นพรรคการเองใหม่แต่ระยะเวลาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 ร้อนแรงแหลมคม
เป็นความร้อนแรงแหลมคมที่จำเป็นต้อง”พิสูจน์”ต่อไป
สภาพความเป็นจริงทางการเมืองในกระบวนการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้ว่าทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะมีคู่ต่อสู้ใหญ่เดียวกันนั่นก็คือ พรรคพลังประชารัฐ
แต่ในกระบวนการ”การเลือกตั้ง”ก็จำเป็นต้อง”ต่อสู้”กันเอง
เป็นการต่อสู้บนพื้นฐานแห่ง”นโยบาย” เป็นการต่อสู้ที่ขึ้นอยู่กับ การตัดสินใจเลือกของ”ประชาชน”
คำตอบสุดท้ายจึงอยู่ที่ประชาชนซึ่งจะเป็นผู้มอบ ”อาณัติ” มาให้