คล้ายกับว่าโดยกระบวนการเลือกตั้ง 400 ระบบเขต 100 ระบบบัญชีรายชื่อ จะเป็นผลดีให้กับพรรคใหญ่อย่าง พรรคเพื่อไทยและ พรรคพลังประชารัฐ

หรือแม้กระทั่งพรรคระดับ”กลาง”อย่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์

และประเมินว่าอาจเป็นผลเสียแก่พรรคก้าวไกล

แต่คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือ การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 พรรคอนาคตใหม่อันเป็น”ตันธาร”แห่งพรรคก้าวไกลในปัจจุบันเป็นพรรคที่ได้รับเลือกมาระดับไหน

คำตอบก็คือได้รับเลือกมาด้วยจำนวนสูงถึง 80 ซึ่งเหนือกว่าพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้มากว่า 50 จึงเท่ากับจะเป็นรองก็เพียงพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐเท่านั้น

แม้ว่าในระหว่างการเดินทางจากเดือนมีนาคม 2562 กระทั่งถูก 

ยุบพรรคในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จะประสบกับสถานการณ์”งูเห่า” ตลอด 2 รายทาง

กระนั้น ในความเป็นจริงพรรคก้าวไกลมิใช่พรรคใหม่เอี่ยมอ่อง

 

ความเป็นจริงที่สำคัญก็คือ พรรคก้าวไกลต่อยอดมาจากผลงานและ ความสำเร็จของพรรคอนาคตใหม่ ทุกผลงานที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กระทำล้วนอยู่ในมือของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

รวมทั้งคนที่โดดเด่นไม่ว่า น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ไม่ว่า นายวิ โรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่ว่า นายรังสิมันต์ โรม เป็นต้น

การดำรงคงอยู่ของ ส.ส.ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขตรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ถือได้ว่าเป็นการดำรงคงอยู่ของเนื้อแท้ในทาง การเมืองผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน

ความโดดเด่นของพรรคก้าวไกลที่สังคมสัมผัสได้ก็คือ ความโดดเด่นในการทำหน้าที่”ฝ่ายค้าน”ในรัฐสภา 

ผ่านกระบวนการ”นโยบาย”และกระบวนการ”เคลื่อนไหว”

 

แนวโน้มของพรรคก้าวไกลจึงเป็นแนวโน้มเหมือนที่พรรคพลังประชา รัฐแสดงความวิตก และเห็นอย่างเป็นรูปธรรมผ่านกระบวนการบริจาคของผู้เสียภาษีจำนวนมากถึง 12.6 ล้านบาท

เหนือกว่าทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ

แนวโน้มนี้กำลังสะท้อนให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลกำลังทะยานข้ามพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ

ไปยืนเรียงอยู่เคียงข้างกับพรรคเพื่อไทยแนบแน่น มั่นคง