เผยแพร่ |
---|
ภาพของเด็กชายวัย 11 ถูกขนาบข้างโดย”คฝ.”ในเครื่องแบบอันขึงขังน่าเกรงขาม เป็นภาพอันก่อให้เกิดสภาวะแปลกแยกเป็นอย่างสูงในทางการเมือง
เป็นเด็กชายวัย 11 ซึ่งถูกจับกุมจากสถานการณ์ในสามเหลี่ยมดินแดงเมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม
นี่คือปรากฏการณ์ทางการเมืองในยุคแห่ง”ทะลุแก๊ส”อันเข้มข้น
อาจเพราะการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นในห้วงหลัง”เคอร์ฟิวส์”จึงมิได้ปรากฏเป็นข่าวผ่าน”สื่อ”กระแสหลัก ไม่ว่าโทรทัศน์ ไม่ว่าหนังสือพิมพ์
จึงเห็นกันเพียงในพื้นที่ของ”ออนไลน์” และมีเพียง ส.ส.จำนวนหนึ่งจากพรรคก้าวไกลไม่ว่าจะเป็น นายรังสิมันต์ โรม ไม่ว่าจะเป็น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รวมถึง นายชัยธวัช ตุลาธน เท่านั้นที่รับรู้
รับรู้ตั้งแต่ถูกจับกุมกระทั่งได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน
ภาพของเด็กชายวัย 11 จึงเสนอคำถามอย่างแหลมคมยิ่งในทางความคิดและในทางการเมือง
เหตุปัจจัยใดทำให้เด็กวัย 11 ต้องออกมาสู้เพื่อ”ประชาธิปไตย”
เมื่อเห็นเด็กวัย 11 ผู้ใหญ่ส่วนมากต้องมองด้วยความวิตกและประเมินล่วงหน้าได้เลยว่า เด็กคงถูกหลอกและทำให้หลงผิดออกมาแสดงบทบาทเช่นนี้
อย่าว่าแต่เด็กวัย 11 เลย แม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ น.ส.ปภัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ก็ถูกมองอย่างกังขา
อย่าว่าแต่เกิดขึ้นในยุคหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 และหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เลย แม้กระทั่งภาพของ นักศึกษาในเดือนตุลาคม 2519 ก็ถูกมองอย่างแคลงคลาง
กระนั้น จากปรากฏการณ์”เยาวชนปลดแอก”เมื่อเดือนกรกฎา คม 2563 กระทั่งยกระดับและพัฒนาขึ้นมาเป็น”คณะราษฎร 2563”
ยังจะเกิดความแคลงคลางกังขาอีกหรือเมื่อเห็น”ทะลุแก๊ส”
บทเรียนจากงานรำลึก”45 ปี 6 ตุลา” ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ย้ำเตือนอย่างเด่นชัดว่าไม่ควรให้ต้องเกิดขึ้นอีกในยุค ปัจจุบัน
ความสูญเสียนั้นมหาศาลล้ำลึกในทางความคิด จิตใจ
ภาพของเด็กชายวัย 11 ที่ถูกขนาบข้างด้วย”คฝ.”จากเหตุการณ์คืนวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมาจึงน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย
จำเป็นอย่างยิ่งต้องทบทวน”บทเรียน”อย่างจริงจัง