เผยแพร่ |
---|
ทั้งๆที่นับจากกลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา มาตรการ”หน่วยควบคุมฝูงชน” หรือ “คฝ.” ต่อการปรากฏขึ้นของเยาวรุ่นอิสระที่เรียก ตนเองว่า”ทะลุแก๊ส”เข้มเป็นอย่างยิ่ง
เข้มทั้งในด้านการใช้”เครื่องมือ”ที่มี เข้มทั้งในด้าน”ยุทธวิธี”ที่วางแผนอย่างแยบยล
กระทั่ง บรรลุเป้าหมายใน”การจับกุม”เป็นจำนวน”ทะลุร้อย”
การจับกุมที่เกิดขึ้นในห้วงหลังของเดือนสิงหาคม กันยายน ตามเป้าหมายที่จะปิดเกมให้ได้ภายในเดือนตุลาคม ทำให้สถาน การณ์ทวีความเข้มข้นและสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
หากฟังคำแถลงจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลประสานกับกองงานโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะสัมผัสได้ในความคืบหน้าและความสำเร็จ
เป็นความสำเร็จจากการจับกุม เป็นความสำเร็จจากการสลาย
กระนั้น คำถามอันแหลมอย่างยิ่งก็คือ กระทั่งมาถึงเดือนตุลาคมแล้วการเคลื่อนไหวของ”ทะลุแก๊ส”ยุติลงหรือไม่
ตรงกันข้าม กลับร้อนแรงและแหลมคมมากขึ้นเป็นลำดับ
จำเป็นต้องยอมรับว่า การเคลื่อนไหวของ”ทะลุแก๊ส”แตกต่างไปจาก การเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็น “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ไม่ว่าจะเป็น”คาร์ม็อบ”หรือ”คาร์ปาร์ค”
ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดก็คือ การไม่มีประกาศนัดหมาย การไม่แสดงตัวของแกนนำ การไม่มีเวที
ตรงกันข้าม ทุกคนที่เข้าร่วม”เคลื่อนไหว”ล้วนเป็น “แกนนำ”
เมื่อ”ทะลุแก๊ส”ไม่เหมือนกับทุกการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา จึงมิอาจประเมินความสำเร็จและความล้มเหลวเหมือนอย่างที่เคยกระทำต่อทุกการเคลื่อนไหว
นั่นก็คือ ไม่อาจยึดถือ”ปริมาณ”มาเป็นปัจจัยชี้ขาด เพียงแต่
ยืนยันว่ายังมีการชุมนุม ยังมีการเคลื่อนไหวดำรงอยู่หรือไม่
ปรากฎการณ์ที่พื้นที่ในการเคลื่อนไหวของ”ทะลุแก๊ส”เริ่มสร้างแรงบันดาลใจให้กับ”ทะลุฟ้า”น่าพิจารณาอย่างเป็นพิเศษ ยิ่งต่อ”คาร์ม็อบ”ยิ่งมากด้วยความละเอียดอ่อน
ความหมายมิได้อยู่ที่”ความรุนแรง”หากอยู่ที่”การเคลื่อนไหว”
ตราบใดที่ยังมีเยาวรุ่น”อิสระ”ปรากฏตัวพร้อมกับพลุไฟและระ เบิดเพลิง นั่นคือการดำรงอยู่ของ”ทะลุแก๊ส”ซึ่งดำเนินไปอย่างมีกัมมันตะโดยตนเอง
คำถามก็คือ “อำนาจรัฐ”จะมีท่าทีอย่างไรต่อเสียงพลุที่เกิดขึ้น