สถานการณ์”ไข่เน่า”เป็นอีกสถานการณ์หนึ่งซึ่งปรากฏขึ้นมาในลักษ ณะทดสอบและหยั่งเชิงอย่างมากด้วยความละเอียดอ่อนและอ่อนไหวยิ่งในทางสังคม

ส่งแรงสั่นสะเทือนต่อ “กระบวนการ” และ “เส้นสาย”ในทางจริยธรรมและศีลธรรมเป็นอย่างสูง

สูงพอๆกับการปรากฏขึ้นของ 2 พ.ส.อย่าง พระมหาสมปอง ตาลปุตโต อย่าง พระมหาเครือวัลย์ วรวัณโณ จากสำนักวัดสร้อยทองแห่งสะพานพระราม 6

สูงๆพอกับ”ปฏิกิริยา” อันเนื่องแต่การตัดสินใจของเจ้าของยี่ห้อน้ำพริกเผาหนึ่งต่อบทบาทและความหมายในการรีวีวอาหารของ พี่แขก คำผกา

เหมือนกับกรณีของ”ไข่เน่า”จะแตกต่างไปจากกรณีของ “2 พส.” จะแตกต่างไปจากกรณีของ”พี่แขก คำผกา” แต่ก็ต้องยอมรับ

ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในพื้นที่ทาง”วัฒนธรรม”และ”ความคิด”

สะท้อนให้เห็นถึงรูปธรรมการปะทะและความขัดแย้งระหว่างค่านิยมความเชื่อแบบ”เก่า” กับแบบ”ใหม่”มากด้วยความร้อนแรง

 

หากมองผ่านกระบวนการของ”กฎหมาย” การกระทำของ”ไข่เน่า” ขัดและผิดอย่างเด่นชัด ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางด้านไซเบอร์ออกมาปฏิบัติการนั้นชอบด้วยกฎหมาย

แต่คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือ เจ้าหน้าที่”เทค แอ็คชั่น”ต่อสภาพ เหล่านี้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์หรือไม่

ดำเนินไปอย่าง”ละเว้น” ดำเนินไปอย่าง”สองมาตรฐาน”หรือไม่

ขณะเดียวกัน ในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคมการกระทำในแบบของ”ไข่เน่า”ก็เป็นเรื่องเฉพาะส่วน เฉพาะกลุ่มมิได้แผ่กระจายอย่างเป็นสาธารณะ

อย่าได้แปลกใจหากจะมีความเห็นแย้งจาก”น้องมันแกว”นิ่มๆ

เช่นเดียวกับ”ปฏิกิริยา”ในทางสังคมในทางไม่เห็นด้วยกับตำรวจ

 

เชื่อได้เลยว่าจะยังมีอีกหลายปรากฏการณ์ที่จะแสดงตัวออกมาในแบบเดียวกับกรณีของ”ไข่เน่า” เหมือนๆกับที่เกิดสภาพในแบบเดียว กันกับ”2 พส.”รวมถึงการปะทะอย่างที่เกิดกับ”พี่แขก คำผกา”

สังคมไทยอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านอันแหลมคมยิ่งในทาง ความคิด ในทางวัฒนธรรม การปะทะระหว่างใหม่ เก่าจึงเลี่ยงไม่พ้น

ไม่ว่าในทาง”เศรษฐกิจ” ไม่ว่าในทาง”การเมือง”