กระบวนการบริหารจัดการปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สะท้อน”วิธีวิทยา”ในทาง”ความคิด”ออก มาอย่างเด่นชัด

เป็นความคิดที่หยุดนิ่งและตายตัว คิดว่าเมื่อปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกไปทุกอย่างก็จะจบ 

ความคิดในลักษณะนี้ดำรงอยู่ในลักษณะ”ตัดตอน”

มองเห็นการดำรงอยู่ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นการดำรงอยู่อย่างโดดเดี่ยว เสมอเป็นเพียงคนๆหนึ่ง ไม่มีความสัมพันธ์ ไม่มีจุดเชื่อมต่อและต่อเนื่อง

พลันที่ถูกปลด ถูกตัดออกไปจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทุกอย่างก็จบสิ้น ไม่สามารถมีบทบาทอะไรได้อีกในทางการเมือง

ในความเป็นจริง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงอยู่เช่นนั้นหรือ

ในความเป็นจริง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงอยู่อย่างไร้ญาติ ขาดมิตรในทางการเมืองจริงละหรือ

ผลสะเทือนอันตกกระทบตามมาคือคำตอบ

 

สถานการณ์อันปะทุขึ้นอย่างรวดเร็วในครึ่งแรกของเดือนกันยายนยืนยันอย่างเด่นชัดว่า สถานะของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มิได้เป็นดั่งตะเกียงอันไร้น้ำมัน

โดยพื้นฐานที่สุด สถานะของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แข็งแกร่ง ยิ่งในจังหวัดพะเยาและภาคเหนือตอนบน

ไม่เพียงแต่จะอาศัยรากฐานเดิมอันเป็นฐานทางการเมืองของ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย หากแต่ยังเป็น ฐานใหม่ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สร้างขึ้น

หากที่สำคัญอย่างเห็นเป็นรูปธรรมเขามีเพื่อนมิตรโดยตรงภาย ในพรรคพลังประชารัฐ และพรรคการเมืองอื่นที่พร้อมจะร่วมมือกัน

ทำให้การรุกเข้าไปยึดพรรคพลังประชารัฐใช่ว่าจะง่ายดาย

 

ปัญหาของรัฐบาล ปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงยังเป็น ปัญหาอันเนื่องจากความขัดแย้งและไม่พอใจต่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหม เผ่า โดยมีจุดเริ่มจากการปลดเมื่อวันที่ 8 กันยายน

เป็นปัญหาอันก่อให้เกิดคำถามต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เพียงการเข้าจัดการกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คนเดียวก็ยังไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดตามความปรารถนาได้

ทั้งยังสะท้อนถึงหลักคิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เด่นชัด