ยิ่งใกล้ถึงวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม ยิ่งสร้างบทบาท ความหมายและ ความสำคัญให้กับสถานการณ์ในวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม เป็นอย่างสูง ทางการเมือง

โดยเฉพาะภาพที่ปรากฏจากคนพันธ์ R ในวันที่ 31 กรกฎาคม ประสานเข้ากับภาพที่ปรากฏในวันที่ 1 สิงหาคม

การปรากฏขึ้นของ “คนพันธุ์ R”ก่อให้เกิดนัยประหวัดไปยังองคาพยพเร้นลับของสถานการณ์ภายหลังการสลายการชุมนุมในเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535

ไม่ว่าการแถลงผ่านกลไกของกองบัญชาการทหารสูงสุด ไม่ว่าคำอธิบายในภายหลังจากกลไกการปราบปรามจากกองทัพบก ยอม รับตรงกันในการปรากฏขึ้นของ”มอเตอร์ไซค์ ม็อบ”

อย่าได้แปลกใจหากจะสัมผัสได้ใน”ภาวะตื่นตัว”อย่างเป็นพิเศษของหน่วยควบคุมฝูงชน(คฝ.)ภายหลังยุติการชุมนุม

โดยพุ่งเป้าไปยัง “คนพันธุ์ R”ที่ตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก

อย่าได้แปลกใจหากสัญญาณแห่งการป้องปรามต่อสถาน การณ์ในวันที่ 7 สิงหาคมจะเริ่มปรากฏให้เห็นเป็นลำดับ

 

นอกเหนือจากความแข็งกร้าว ไม่ว่าจะมาจากสภอ.รัตนาธิเบศร์ ไม่ว่าจะมาจากสภอ.หนองสองห้อง ไม่ว่าจะมาจากหน้าบช.ตชด.ภาค 1 ล้วนมากด้วยความร้อนแรง

ร้อนแรงพอๆกับ”ปฏิกิริยา”ของหน่วยควบคุมฝูงชน(คฝ.)ที่ขึ้นไปบนทางด่วนหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภ

ตามมาด้วยการออกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงอันมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมเป็นต้นไป

เหมือนกับข้อห้ามทั้งหมดจะมุ่งไปยังสกัดการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อโคโรนา 2019(โควิด-19)

แต่เป้าหมายอย่างแท้จริง คือสถานการณ์วันที่ 7 สิงหาคม

จุดที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ แม้การนัดหมายในวันที่ 7 สิงหาคมจะกระทำโดย”เยาวชนปลดแอก”กับ”กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย” แต่ก็มีการขานรับอย่างคึกคัก

ไม่ว่าจะเป็นจากเวทีการชุมนุมของ แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ร้อนแรง

ไม่ว่าจะเป็น นายอานนท์ นำภา ไม่ว่าจะเป็น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ไม่ว่าจะเป็น นายภาณุพงศ์ จาดนอก

ทุกสายตาจึงทอดจับไปยังเสาร์ที่ 7 สิงหาคมเป็นจุดเดียว