เผยแพร่ |
---|
การร่วมกัน”ชู 2 นิ้ว” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปล่งวลีที่ว่า ด้วย”นะจ๊ะ นะจ๊ะ”อาจเป็นเงาสะท้อนแห่งการประสาน”พลัง”ในทาง การเมืองอันแหลมคม
ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี
เหมือนกับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมถ่ายเซลฟี่กับประธานหอการค้าจังหวัดจากพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาในมหกรรม แห่ง”ภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์”
เนื่องจากกรณี”เซลฟี่”ครั้งนั้นได้ก่อให้เกิดภาวะสยดสยองในทางความรู้สึก พลันที่มีความแจ้งชัดว่าประธานหอการค้าท่านนั้นติดโควิด ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำต้อง”กักตัว”
ขณะที่กรณี”ชู 2 นิ้ว”พร้อมกับเปล่งคำว่าด้วย”นะจ๊ะ นะจ๊ะ”อาจสร้างความคึกคักให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนเอ่อล้น
แต่หากมองจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล กลับไม่สดสวยงามตา
ไม่สดสวยและงามตาเนื่องจากเมื่อภาพปรากฏออกมา นายอนุ ทิน ชาญวีรกูล ดำรงอยู่ในสภาพเหมือนกับเป็น”วอลเปเปอร์”
หากมองตามความเป็นจริงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า คณะรัฐประหารตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 และเป็นคนที่พรรคพลังประชารัฐหนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี
การปวารณาตนเป็นเสมือนกับ”วอลเปเปอร์”ให้กับ พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล อาจเหมาะสม
กระนั้น เมื่อคำนึงถึงผลกระทบในทางการเมืองหลังจากปฏิบัติ การ”ชู 2 นิ้ว”และเปล่งคำ”นะจ๊ะ นะจ๊ะ”ออกมา ไม่ว่าจะมองจากใน ด้านของ นายอนุทิน ชาญวีรกูลหรือใครก็ตามไม่น่าจะคุ้ม
ขอให้ประเมินจาก”ปฏิกิริยา”ที่กระทบต่อบรรดา”อาจารย์หมอ” ที่ดำรงอยู่ในแห่ง”พระอันดับ”
แล้ว”ปฏิกิริยา” ต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็แทบไม่ต่างกัน
การเมืองเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง ยิ่งเป็นการเมืองในเรื่องของ ภาพลักษณ์ยิ่งเป็นความละเอียดอ่อนอันมากด้วยความอ่อนไหวยิ่งยวด
ในฐานะ”หัวหน้าพรรค” จำเป็นต้อง”สำเหนียก”และสำนึก
เหมือนกับสำเหนียกจากผลกระทบที่กระแทกเข้าใส่บรรดา”อา จารย์หมอ”อย่างรุนแรงและล้ำลึก
ต้องคำนึง”สถานะ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์อะไร ว่าเป็นอย่างไร