เผยแพร่ |
---|
บทบาทของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในห้วงตั้งแต่หลังญัตติอภิปราย ทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเป็นต้นมา
น่าสนใจ น่าติดตามอย่างเป็นพิเศษ
หากจับจากบทสรุปของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประสานกับท่วงทำนองของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ประสานท่วงทำนองของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
จะสัมผัสได้ในการส่งลูก รับลูกและตบท้ายอย่างเข้มข้น จะสัม ผัสได้ในการตระเตรียมเนื้อหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และเรียกร้องอย่างเคร่งครัดจริงจังด้วยประโยคอันทรงความหมาย
หมดเวลาแล้วสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หมดเวลาแล้วสำหรับรัฐบาลอันมาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการตัดสินใจใหม่
นั่นก็คือ หากไม่ลาออกไปก็จะต้องนำไปสู่การยุบสภา
จากนั้น จังหวะก้าวของพรรคก้าวไกลจึงมากด้วยความเข้มข้นในการวิพากษ์และชี้ให้เห็นถึงเหตุผลและยืนยันความเชื่อ
นับแต่นี้จึงเป็นเวลาสำหรับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ยิ่งในห้วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดและปัญหาการจัดหาวัคซีนอยู่ในภาวะตีบตัน ตกอยู่ภายใต้มาตรการ”แทงม้าตัว เดียว”อย่างเข้มข้น
บทบาทของ ส.ส.พรรคก้าวไกลยิ่งสะท้อนลักษณะอันเป็นกัมมันตะทางการเมืองเป็นอย่างสูง
และทุกเนื้อหารวมศูนย์ไปยัง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ลักษณะการแสดงออกของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มิได้เป็นภาพของ ส.ส.หรือนักการเมืองอย่างธรรมดาทั่วไป หากแต่เป็นการ แสดงออกในจุดที่ว่าหากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล
ความหมายก็คือหาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็น”ผู้นำ”
กระบวนการบริหารจัดการกับ”ปัญหา”ที่วางอยู่ ณ เบื้องหน้า จะดำเนินไปอย่างไร
นี่คือการตระเตรียมที่จะพรรคก้าวไกลทะยานไปสู่โหมดแห่งการเลือกตั้งอย่างเต็มพิกัด
ไม่ว่าระบบของการเลือกตั้งจะเป็นบัตร 1 ใบหรือ 2 ใบ
นี่คือการปักธงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้รวมศูนย์ไปยัง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในสถานะแห่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล