E-DUANG : มุมมอง สุดโต่ง ธรรมนัส พรหมเผ่า สะท้อน ทั้งด้านรุ่งโรจน์ และมืดมน

ความโน้มเอียงอย่างหนึ่งต่อแต่ละปรากฏการณ์ในทางเศรษฐกิจ ในทางสังคม คือ ความโน้มเอียงที่จะประเมินและสรุปในลักษณะสุด ขั้ว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

นั่นก็คือ มองเห็นแต่ด้านที่ “รุ่งโรจน์” สว่างไสว ไพจิตร นั่นก็คือ มองเห็นแต่ด้านที่ “อับเฉา” มืดมน ตีบตัน

เหมือนเมื่อเห็นการผงาดขึ้นของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

ภายในพรรคพลังประชารัฐอาจเห็นแต่ด้านที่คึกคัก ถือได้ว่าเป็นก้าวใหม่ ก้าวสำคัญ อันจะทำให้พรรคพลังประชารัฐกลายเป็น สถาบันทางการเมือง

เอาชนะไม่เพียงแต่พันธมิตรอย่างพรรคภูมิใจไทย อย่างพรรคประชาธิปัตย์ อย่างพรรคชาติไทยพัฒนา หากแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยก็แทบมิได้อยู่ในสายตา

เพราะทุกกลเม็ดของเพื่อไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อ่านแตก

เนื่องจากเคยเป็นส่วนหนึ่งตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย พรรคพลัง ประชาชน และเคยอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย

มีหรือที่จะไม่เข้าใจจังหวะก้าวที่พรรคเพื่อไทยกำหนดเอาไว้

ขณะเดียวกัน หากฟังจากน้ำเสียงของฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเสรีรวม ไทยก็ประเมินเห็นแต่ด้านที่เสื่อมทรุดและตกต่ำ

เพราะการยอมรับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เท่ากับยอมรับทุกบท บาททุกพฤติกรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หมดสิ้น

ไม่ว่าจะเป็นกรณีการนำเข้า”แป้ง”กระทั่งถูกเข้าใจผิดต้องคำพิพากษาให้ติดคุกเป็นเวลา 4 ปีที่ออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็นกรณีวุฒิ การศึกษาที่มากด้วยรอยตำหนิ มลทินมัวหมอง

ยิ่งบทบาทของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในสถานะ”เส้นเลือด ใหญ่”ของรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562

ยิ่งสะท้อนสีสันของ”การแจกกล้วย”อย่างอึกทึกครึกโครม

ต่อปฏิบัติการอันโลดโผนในอดีตพรรคพลังประชารัฐมองด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย มองอีกด้านหนึ่งซึ่ง แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ด้านหนึ่งย่อมมีแต่ความรุ่งโรจน์ ด้านหนึ่งย่อมมีแต่ความมืดมน

นี่ย่อมมิได้เป็นการท้าทายต่อวิจารณญาณทั้งของพรรคพลังประชารัฐและของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย

หากแต่ยังท้าทายต่อบทสรุปในสังคมเป็นอย่างสูง