เผยแพร่ |
---|
เสียงท้วงติงจาก”มาดามแป้ง”ในสถานะแห่งผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์แห่ง”สยามไบโอไซน์”ในกรณีของ”วัคซีน”ที่ว่า
รัฐบาลไม่ควร”แทงม้าตัวเดียว”มากด้วยความแหลมคม
เป็นความแหลมคมที่ไม่เพียงแต่สอดรับกับความรู้สึก”ร่วม”อันสะท้อนมาจาก 1 หอการค้าไทย 1 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 1 สมาคมโรงพยาบาลเอกชนแห่งประเทศไทย
หากแต่ยังสอดรับกับความพยายามของ”สถาบันราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์”ที่ทะยายกำแพงแห่งการผูกขาด ด้วยคำประกาศที่จะสั่งวัคซีนยี่ห้อ”ซิโนฟาร์ม”เข้ามา 1 ล้านโดส
จุดประกายแห่ง”ความหวัง”ให้กับบรรดา”นายกอบจ.”น้อยใหญ่ ไม่ว่าจะจากปทุมธานี ไม่ว่าจะจากนครศรีธรรมราช ไม่ว่าจะจากเชียงใหม่ ไม่ว่าจะจากนครราชสีมา
เป็นความหวังที่ประเทศไทยจะหลุดพ้นจาก”แทงม้าตัวเดียว”
นั่นก็คือ การปรากฏขึ้นของวัคซีนหลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น โมเดิร์นนา ไม่ว่าจะเป็นไฟเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นซิโนฟาร์ม
คำถามอยู่ที่ว่าเมื่อใด”ความหวัง”จะปรากฏ”เป็นจริง”
กล่าวสำหรับคนไทยที่ตกอยู่ในสภาพอกหัก รักคุด รักทิ้ง มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ย่อมกระหายและบังเกิดกระแสเรียกร้องต้องการรักจริง ของจริงมากกว่า
รักจริง ของจริงในที่นี้ย่อมหมายถึง”วัคซีน”ที่มีกำหนดการนำเข้าอันแน่นอน น่าเชื่อถือ
มิได้เป็นคำหลอกลวงหวานชื่นแต่เสมอเป็นเพียงวัคซีน”ทิพย์”
ไม่ว่าจะมองผ่านของกำนัลอันมาจากสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะมองผ่านคำแถลงอันสวยหรูจากทำเนียบรัฐบาล และจากกระทรวงสาธารณสุข
คำถามที่ตามมาอย่างฉับพลันทันใดและโดยอัตโนมัติคือเมื่อไร
เป็นคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคำถามถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล
ตราบใดที่ยังไม่มีกำหนดวันที่แน่นอน ตราบนั้นประชาชนย่อมไม่เกิดความมั่นใจ
ไม่ว่าคนนั้นจะเป็น “นายกรัฐมนตรี” หรือ”รัฐมนตรี”
เมื่อท่านพูดคนเขาจะฟัง แต่เมื่อท่านลงมือทำตามที่พูด คนจะเชื่อมั่นและศรัทธา
ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล