เผยแพร่ |
---|
ปรากฎการณ์ที่มีการแฮ็คเข้าไปยังบางเพจในเครือของ”อมรินทร์”เป็นปรากฏการณ์อันสะท้อนถึงมิติและแนวโน้มใหม่
ปฐมเหตุมาจากความไม่พอใจต่อการเสนอข่าว”ลุงพล”
หากมองอย่างเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ปรากฏการณ์นี้เท่ากับเป็นเงาสะท้อนแห่งกระบวนการ”วิพากษ์”ต่อบทบาทและการทำงานใน เครือของ”อมรินทร์”
เพียงแต่หากว่าเป็นความไม่พอใจผ่านสื่อ”สิ่งพิมพ์”ก็อาจจะมีการส่งจดหมาย หรือไม่เสียเงินซื้อ
และหากเป็นสื่อ”โทรทัศน์”ก็ไม่เปิดดู
หรือหากมีความรู้สึกรุนแรงก็อาจจะยก”โทรทัศน์”ขึ้นทุบด้วยอารมณ์เหมือนที่ชอบเล่นสำนวนกัน
แต่เมื่อเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคแห่ง”ดิจิทัล”
กระบวนการแห่งการแสดงความไม่พอใจ กระบวนการแห่งการตอบโต้ก็ทวีความรุนแรง
ไม่เพียงแต่ไม่ยอมดู หากแต่ถึงกับมี”การแฮ็ค”ปิดกั้น
สถานการณ์เช่นนี้ถือว่าร้ายแรงและแหลมคม เพราะยึดบรรทัดฐานของกฎหมายอย่างเคร่งครัดถือได้ว่ามีความผิด
คำถามอยู่ที่ว่าจะสามารถจับมือใครดม หาตัวคนทำได้หรือไม่
กระนั้น หากมองจากพื้นฐานแห่งความไม่พอใจก็ต้องยอมรับว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ และกระตุกอย่างรุนแรงและเฉียบขาดเป็นอย่างสูง
เพราะเท่ากับดำเนินมาตรการอันทำให้การแพร่กระจายของข่าวสารหยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิง
เหมือนกับการสั่งปิดโดยอำนาจแห่ง”กฎหมาย”
เพียงแต่คราวนี้มิได้เป็นอำนาจแห่งกฎหมายของบ้านเมือง หากแต่เป็นอำนาจจากกระบวนการภาคพลเมืองเท่านั้น
กรณีของ”อมรินทร์”จึงเป็นอีกสัญญาณหนึ่งในทางสังคม เป็นท่าทีต่อสื่อที่ทวีความแข็งกร้าวและรุนแรง
เป็นการวิพากษ์อย่างแน่นอน แต่มิได้เปิด”ทางเลือก”
เป็นการใช้ดุลพินิจบนพื้นฐานที่ว่า เมื่ออำนาจตามกฎหมายยื่นไปไม่ได้ถึงก็ใช้อำนาจรุนแรงผ่านวิถีแห่งเทคโนโลยี
นี่ย่อมเป็นสัญญาณการมาเยือนของ”อนาธิปไตย”ในสังคม