คล้ายกับว่า พื้นที่แห่งความขัดแย้งจะย้ายไปอยู่กับประเด็นแห่งการฉีด”วัคซีน”

โดยมีดาราอย่าง ชมพู อารยา อั้มพัชราภา เข้ามาเกี่ยว

แต่เมื่อตามลึกลงไปในรายละเอียดที่เริ่มมีการโพสต์ มีการแชร์ออกมาอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการ ก็จะยิ่งมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

เป็นความเข้าใจใน”เส้นสน” และ “กลใน”

เป็นความเข้าใจในกระบวนการปะทะกันในทาง”ความคิด”ที่ดำรงอยู่อย่างยาวนาน ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 และต่อเนื่องมายังหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557

ในที่สุด ปัญหาก็จะวนเข้าไปแวดล้อมอยู่โดยรอบต่อรัฐบาลและต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

จากท่าทีของ ชมพู อารยา จากท่าทีของ อั้ม พัชราภา

สายตาที่มอง ชมพู อารยา สายตาที่มอง อั้ม พัชราภา เป็นสายตาที่มองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นั่นก็คือ ไม่เชื่อมั่น ไม่ไว้วางใจ และเริ่มจะขาด”ศรัทธา”

มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ เมื่อนำเอาข้อมูลจาก ชมพู อาร ยา ไปวางเรียงอยู่เคียงข้างกับข้อมูลของ สุดา ชื่นบาน

ก็จะได้ “คำตอบ” จากกระบวนการ”เปรียบเทียบ”

การดึงดารา นักแสดง เข้าไปอยู่ในกระบวนการฉีดวัคซีน เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการจิตวิทยาในทางการเมือง เพื่อเรียกร้องความเชื่อมั่น ความศรัทธาต่อรัฐบาล

เนื่องจากการวางแผนในเรื่อง”วัคซีน”ของรัฐบาลเกิดความผิดพลาดอย่างเด่นชัดยิ่ง การชักเข้า ชักออกในกรณีขอ”วอล์ค อิน”คือภาพฟ้องของการตัดสินใจที่สะเปะสะปะ

ทั้งหมดเนื่องจากจุดเริ่มต้นแห่งการกลัดกระดุมเม็ดแรกพลาด

นั่นก็คือ มาตรการ”แทงม้าตัวเดียว” และขาดความกระตือรือร้นอย่างเพียงพอในการจัดหาวัคซีน

เมื่อปะเข้ากับ”เรือนจำ คลัสเตอร์”ฝีที่กลัดหนองก็เริ่มแตก

การดึงเอาดาราเข้ามาสร้างสีสันในเรื่อง”วัคซีน”แทนที่จะเป็นผลดีกลับเป็นการเปิดโปงตัวเองออกมาอย่างเปล่าเปลือย

เท่ากับยืนยันถึงความผิดพลาดของมาตรการ”แทงม้าตัวเดียว