เผยแพร่ |
---|
ณ วันนี้ ไม่เพียงแต่จะมี “รัฐมนตรี” บางคนแอบไป “นินทา” นายกรัฐ มนตรี ดังถ้อยปรารภของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในที่ประชุมครม.เท่านั้น
หากแม้กระทั่ง “นักธุรกิจ”ที่เข้าร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรีก็ยังไปพูด”ลับหลัง”
ดังที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปรย
“ภาคเอกชนเมื่อร่วมมือกับรัฐบาลก็ต้องพูดไปในทางเดียวกัน ผมบังคับท่านไม่ได้ เพราะคุยอยู่กับผมทุกอาทิตย์ เรื่องวัคซีนผมก็อธิ บายให้หมออธิบายก็เข้าใจ
แต่ออกมาพูดอีกอย่าง ผมไม่แฮปปี้เท่าไหร่ จึงไม่อยากให้ออกมาพูดในสื่อข้างนอกทำให้เกิดความเสียหายกับภาครัฐ”
ประเด็นยังแวดล้อมอยู่กับ”วัคซีน” ยังแวดล้อมอยู่กับ “โควิด”
เพียงแต่เป็นการขยายเสียงบ่นจากที่เคยมีต่อ”รัฐมนตรี”มายัง“นักธุรกิจ”ในภาคเอกชน
ความหมายก็คือ ไม่เป็นไปใน”ทิศทาง”เดียวกันกับ”รัฐบาล”
หากมองจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเติบใหญ่มาในแวดวงของกองทัพ ตั้งแต่เรียน”เตรียมทหาร”กระทั่งออกรับราชการจนได้เป็น “ผบ.ทบ.”
ก่อนจะก่อ”รัฐประหาร” เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เข้าดำรงตำแหน่งเป็น”นายกรัฐมนตรี”จนเดือนพฤษภาคม 2564
ได้รับการหล่อหลอมในแบบ”ทหาร” ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นอายุ 15-16 กระทั่งเข้าสู่วัยชรา 60 ตอนปลายเหยียบเข้าสู่หลัก 70 ย่อมเคยชินอยู่กับระเบียบวินัยเคร่งครัด
เป็นระเบียบวินัยในแบบข้าราชการ”ทหาร”อันเข้มข้นมากยิ่งกว่าข้าราชการ”พลเรือน” เป็นระเบียบวินัยที่”ถูก”ปฏิบัติจากผู้บังคับบัญชา กระทั่ง”กระทำ”ต่อผู้ใต้บังคับบัญชา
จึงย่อมจะไม่ชินกับวิถีในแบบของ”รัฐมนตรี”ที่มาจากนักการเมือง ไม่ชินกับวิถีของ”นักธุรกิจ”ที่มาจากภาคเอกชน
ท่วงท่าอาการอัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สำแดงออกอาจเป็นเรื่องธรรมดาอย่างปกติยิ่งของข้าราชการ”ทหาร” แต่เมื่อมองจากมุมด้านอื่นย่อมเป็นเรื่องในแบบ”อ-ปรกติ
ไม่ว่าจะมองจากภาคของ”นักการเมือง”ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะมองจากภาคของ”นักธุรกิจ”ที่ต่อสู้มาด้วยลำแข้งของตน