เผยแพร่ |
---|
มีความพยายามจะแยกเรื่องของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากความรับรู้และความรับผิดชอบในฐานะนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ความพยายามนี้มีความเป็นไปได้หรือไม่
หากสอบถามคณบดีคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คำตอบอาจไม่ชี้โดยตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่เมื่อคำนึงถึงตำแหน่งของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คือ รัฐมน ตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คงยากเป็นอย่างยิ่งที่ประ วัติความเป็นมาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะไม่ผ่านความรับรู้ของ บุคคลที่เป็นนายกรัฐมนตรี
บรรดา”เนติบริกร”ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจยืนยันว่าคดีความในกาลอดีตไม่น่าจะเป็นปัญหา
แม้ว่าจะเป็นคดี”ยาเสพติด” แม้ว่าจะเป็นคดีที่มี”คำพิพากษา” จากศาล และมีการลงโทษด้วยการให้ติดคุกเป็นเวลา 4 ปี พ้นโทษแล้วเนรเทศออกไปก็ตาม
การดำรงอยู่ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ตั้งแต่เริ่มต้นสมัครเข้ารับเลือกตั้งในฐานะ ส.ส.ในการเลือกตั้งอย่างเป็นการทั่วไปเมื่อเดือนมี นาคม 2562
จึงล้วนอยู่ในความรับรู้และอยู่ภายใต้กระบวนการตรวจสอบขอหลายองค์กรทั้งที่เป็นอิสระและไม่เป็นอิสระ
ยิ่งเมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผ่านการรับรองมาแล้วจากคณะ กรรมการการเลือกตั้งและเข้าสู่การพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐ มนตรีในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยิ่งต้องมีการตรวจสอบตั้งแต่ระดับ “ประจำ” ตามกฎหมาย และระดับ”การเมือง”อันสัมพันธ์กับคุณธรรม จริยธรรม
ไม่มีใครรับรู้เลยนะหรือว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เคยต้องคดีและติดคุกด้วยดคียาเสพติด
แม้จะมีความพยายามยืนยันคำวินิจฉัยของตุลาการ แม้จะมีความพยายามแยกเรื่องจริยธรรมว่าเป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อตัดคนอื่นๆออกไปจากความรับผิดชอบ
แต่ทุกฝ่ายล้วนรับรู้ว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เคยติดคุก
ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้วนมิอาจปัดปฏิเสธความรับรู้นี้ได้