E-DUANG : อ่าน สำนึก “รัฐราชการ”รวมศูนย์ ผ่าน วัคซีน ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ป้ายประกาศกำหนดสถานที่และรายละเอียดการฉีดวัคซีนให้ประชา ชนในพื้นที่คลองเตยของกรุงเทพมหานครได้กลายเป็นปัญหาอันละ เอียดอ่อนยิ่งในทางการเมือง

เมื่อภายใต้ข้อกำหนดในป้ายนี้มีชื่อของนายกรัฐมนตรี ตามด้วยชื่อของผู้ว่าฯกทม. ตามด้วยชื่อของที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.

บ่งบอกเสมือนว่า “วัคซีน”เป็นของ”ท่าน”เหล่านั้น

คำวิพากษ์วิจารณ์ในโลกของโซเชียล มีเดีย ไม่ว่าเฟซบุ๊ค ไม่ว่าอินสตาแกรม ไม่ว่าไลน์ ไม่ว่าทวิตเตอร์ จึงมากด้วยสีสัน แพรวพราว ด้วยสำบัดสำนวนตามมา

ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ การชี้ให้เห็นว่าวัคซีนที่จะฉีดนั้นมิได้เป็นของนายกรัฐมนตรี มิได้เป็นของผู้ว่าฯกทม. มิได้เป็นของที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.

หากแต่มาจาก”ภาษี”ของประชาชน นั่นก็คือเป็นของประชาชน

เท่ากับเป็นการตอกย้ำให้ตระหนักถึงเสียงร้องตะโกนที่ดังกึกก้องนับแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา

นั่นก็คือ “ภาษีกู”

ไม่ว่าป้ายประกาศนั้นจะมาจากเขต ไม่ว่าป้ายประกาศนั้นจะมาจากกรุงเทพมหานคร ก็ต้องยอมรับว่า ลักษณะและน้ำเสียงของคำประกาศเป็นเช่นนี้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน

ทั้งในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ทั้งในพื้นของแต่ละจังหวัดในขอบเขตทั่วประเทศ

สะท้อนให้เห็น”ความคิด”ที่ดำรงอยู่ใน”รัฐราชการ”ของไทย

นั่นก็คือ ความคิดที่กรุงเทพมหานครเป็นใหญ่ นั่นก็คือ ความคิดที่ส่วนกลางเป็นใหญ่ ส่วนภูมิภาคหรือต่างจังหวัดอยู่ในระดับรองและต้องขึ้นต่อ

เป็นเช่นนี้ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์แม้เมื่อปฏิรูปราชการในปี 2434

แม้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในเดือนมิถุนายน 2475 ระบบรัฐราชการก็ยัง”รวมศูนย์”อยู่”ส่วนกลาง”ไม่แปรเปลี่ยน

ความโน้มเอียงจากโครงสร้างของ”รัฐ”เช่นนี้ ทำให้คนที่เป็นข้าราช การวางตนเป็น”เจ้านาย” และเกิดความโน้มเอียงที่จะเห็นว่า”เงินงบประมาณ”มาจากความเมตตาปราณีของตน

แม้ว่าเสียงร้องตะโกน”ภาษีกู”จะเริ่มดังขึ้น กระนั้น ก็ยังมิอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนในด้าน”จิตสำนึก”แต่อย่างใด

เชื่อได้เลยว่าเสียงตะโกน”ภาษีกู”จะยิ่งดังกึกก้องต่อไป