เผยแพร่ |
---|
การออกโรง “สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย”ของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผ่านยุทธการ”444” ณ สวนสันติพร พฤษภา ประชาธรรม ก่อให้เกิดข้อกังขาตามมามากมาย
เป็นความกังขาว่าที่ประกาศว่าเป้าหมายคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นมีความจริงจังมากน้อยเพียงใด
หากมองอย่างเปรียบเทียบกับการออกมาตอบโต้ไม่ว่าจะเป็น นายเสกสกล อัตถาวงศ์ จากภายในทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น นายสิระ เจนจาคะ จากภายในพรรคพลังประชารัฐ
ก็ช่วยทำให้ภาพของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แตกต่างอย่างสิ้นเชิง กระทั่ง ปฏิมาอันเคยสดใสในห้วงเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 ก็หวนกลับมาอย่างกาววาว
ยิ่งเมื่อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เดินขึ้นเวทีและปราศรัยแจกแจงเหตุผลและความชอบธรรมที่จะต้องขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ยิ่งทำให้เสียงร้องตะโกน”ออกไป ออกไป”ที่มาขานรับดำเนินไป เหมือนกับที่ได้ยินจาก 5 แยกลาดพร้าว และแยกราชประสงค์
ต้องยอมรับว่า วาระที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ชูขึ้นภายใต้การเคลื่อน ไหว”สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย”ดำเนินไปผ่านความจัดเจน ของการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
เพียงแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 เป็น พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขณะที่เดือนพฤษภาคม 2564 เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แม้ว่ารหัส”444” คือ วันที่ 4 เดือน 4 คือเดือนเมษายน และเกิดขึ้นในปี 2564 คือเลข 4 ท้าย
แต่เชื่อได้เลยว่าวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 คือเป้าหมาย
เป็นวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ไม่เพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ ตกเป็นเหยื่อของการรัฐประหาร หากแต่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยังเป็น 1 ในผู้ถูกเอาถุงดำคลุมหัวไปคุมขัง
เป็นชะตากรรมเดียวกันกับที่มิตรร่วมการต่อสู้อย่าง นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ก็ประสบด้วยความเจ็บปวดในหัวใจ
ถามว่าปฏิบัติการ”444 สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย”ของ นายจตุพร พรหมพันธุ์และคณะ จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่
คำตอบมิได้อยู่ใน”สายลม”หากแต่อยู่กับปฏิบัติการที่เป็นจริงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2564
อนาคต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นเช่นใด