E-DUANG : ปฏิบัติการ คอลเอาต์ การเมือง ขยายจาก ดารา สู่ นักการเมือง

คำถามที่ว่า ทำไมจึงมีแต่เพียง ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่เข้าไปช่วยประกันตัวบรรดา “เยาวชน” ที่ถูกจับกุมตัวในระหว่างการชุมนุมทางการเมืองเริ่มดังขึ้น

เป็นคำถามซึ่งไม่เพียงแต่กึกก้องขึ้นจากสถานการณ์#ม็อบ20มีนาคมเท่านั้น

หากแต่ยังเป็นคำถามที่ดำเนินไปในลักษณะ”สวน”ทางอย่างสิ้นเชิงกับการเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐที่จะสกัดขวางมิให้ ส.ส.พรรคก้าวไกลได้แสดงบทบาทเช่นนี้

ถึงกับมีการข่มขู่ว่าจะเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการธิการบางคณะกรรมาธิการ รุกไล่ถึงขนาดให้มีการพิจารณาเพื่อปลด ส.ส.ให้พ้นจากสมาชิกภาพและนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล

อาจเริ่มมีการตั้งคำถามใน”เฟซบุ๊ค”ตามมาด้วยใน”ทวิตเตอร์”และในที่สุดมีการตั้งประเด็นขึ้นใน “คลับเฮาส์”อภิปรายกันอย่างเผ็ด ร้อนจากสถานการณ์#ม็อบ20มีนาคม

คำถามนี้เหมือนเป็นการยกย่องพรรคก้าวไกล แต่ส่งแรงสะเทือนไปยังพรรคการเมืองอื่นเหมือนกับระลอกคลื่นกลางทะเล

 

พรรคการเมือง”อื่น”ในที่นี้ย่อมมิใช่พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจ ไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา อันเป็นพรรคในปีกของรัฐบาล

หากแต่น่าจะเป็นคำถามที่ต้องการส่งตรงไปยัง “พรรคเพื่อไทย”ซึ่งเป็นพันธมิตรแนบแน่นกับ”พรรคก้าวไกล”มากกว่า

โดยเฉพาะหากประเมินตามความเป็นจริงที่ว่า พรรคเพื่อไทยคือ “อวตาร”ในทางการเมืองมาจากพรรคไทยรักไทย มาจากพรรคพลังประชาชน

แม้แต่ นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อปรากฏตัวผ่าน”คลับเฮาส์”ยังมีคำถามไปถึงกรณีที่ นายอานนท์ นำพา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ถูกจับกุม

แล้วพรรคเพื่อไทยจะรอดจากการเสนอคำว่า”ทำไม”ได้อย่างไร

นี่คือปฏิบัติการของมวลชนที่เคยเริ่มจาก”คอลเอาต์”ดาราและขยายวงไปเป็นการ”คอลเอาต์” ส.ส. และพรรคการเมือง

 

ความละเอียดอ่อนของพรรคเพื่อไทยก็เพราะว่าพรรคเพื่อไทยเคยมีสัมพันธ์แนบแน่นกับคนเสื้อแดงในปี 2552 และในปี 2553

วันนี้ บทบาทที่โดดเด่นเป็น”เยาวชน”มิใช่”คนเสื้อแดง”

แต่ก็ต้องยอมรับว่า “คนเสื้อแดง”ก็ร่วมอยู่ในการเคลื่อนไหวและตกเป็นเป้าเพ่งเล็กไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า”เยาวชน”