เผยแพร่ |
---|
พลันที่เกิดการเคลื่อนไหวในแบบ”ไม่มีแกนนำ”ผ่านการชุมนุม ณ บริ เวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
การเคลื่อนไหวนี้ตลอดวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ได้กลายเป็น โจทย์ใหม่ในทางการเมืองขึ้นมาอย่างทรงพลังยิ่ง
ประเด็นที่แม้กระทั่ง นพ.ทศพล เสรีรักษ์ นักการเมืองจากพรรค เพื่อไทยที่เกาะติดอยู่กับการเคลื่อนไหวชุมนุมเกือบตลอดปี 2563 ต่อเนื่องมายังปี 2564 ก็บังเกิดความงุนงง
เป็นความงุนงงเพราะมีความแตกต่างจากการเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนตุลาคม 2516 ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 อย่างสิ้นเชิงเท่านั้น
หากแม้กระทั่งที่เคยเกิดขึ้นนับแต่เดือนกรกฎาคมผ่าน”เยาวชน ปลดแอก” กระทั่งยกระดับและพัฒนามาเป็น”คณะราษฎร 2563”ใน เดือนตุลาคมก็มีความแตกต่าง
เป็นความแตกต่างตรงที่ไม่มีแกนนำ ไม่มีเวที ไม่มีการปราศรัย ไม่มีการ์ด ไม่มีรถห้องน้ำ
คำถามก็คือแล้วการชุมนุม”เคลื่อนไหว”ได้อย่างไร
หากย้อนกลับไปศึกษาผ่านรายละเอียดและการสรุปของแพลทฟอร์มที่เรียกตนเองว่า REDEM ก็จะจับได้ว่าการกำหนดรายละ เอียดของการเคลื่อนไหวมิได้มาจากคนใดคนหนึ่ง
ที่สำคัญก็คือ มิได้มาจากองค์กรใดองค์กรหนึ่งตามความเคยชินในอดีต
อาจจะมี”ศูนย์ประสานงาน”ซึ่งกระทำในนามของ REDEM แต่เป็นการประสานงานผ่านแพลทฟอร์ม”เทเลแกรม”ในการสอบถามความเห็นว่าจะเคลื่อนไหวประเด็นใด
นั่นก็โดยการเสนอคำถามเหมือนกับเป็นตัวเลือกในแบบหลายตัวเลือกให้เครือข่ายที่ติดต่อกันอยู่ตอบ แล้วใช้เสียงส่วนมากจากคำตอบเป็นตัวตัดสินไม่ว่าจะเป็นวัน ประเด็นและจุดนัดหมาย
ความหมายจึงหมายความว่าเป็นการเคลื่อนไหวผ่านสภาพที่เรียกว่าประชาธิปไตย”ทางตรง”
คำถามที่ต้องขบคิดและพิจารณาก็คือ ประชาธิปไตย”ทางตรง”นี้มีเครือข่ายและความสัมพันธ์มากน้อยเพียงใด และมีหลักประกันใดที่จะตอบว่าจะมีคนเข้าร่วมหรือไม่อย่างไร
คำถามนี้ไม่เพียงแต่สังคมเท่านั้นที่อยากได้คำตอบ หากกลไกแห่งอำนาจรัฐก็ปรารถนาเป็นอย่างสูงเช่นเดียวกัน
ขณะที่คำตอบขึ้นอยู่กับปฏิบัติการที่เป็นจริงของการชุมนุม