ปรากฎการณ์ REDEM กำลังกลายเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ไม่เพียง LAUNCE ผ่าน “เยาวชนปลดแอก”

หากที่สำคัญและมากด้วยความแหลมคมจะเปิดเวทีสาธารณะเพื่อระดมความคิดผ่าน Clubhouse ในคืนวันพฤหสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์

นี่คือการปรับตัวอีกครั้งของกระบวนการขับเคลื่อนในทางความ คิดผ่านองค์การเปิดอย่าง”เยาวชนปลดแอก” หลังจากที่เคยนำเสนอผ่านกระบวนการ RT มาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

หากศึกษาแต่ละถ้อยคำอันผ่านการนำเสนอโดย REDEM ก็จะสัมผัสได้ในกลิ่นอายของ “สังคมประชาธิปไตย”ซึ่งมาพร้อมกับรัฐสวัสดิการอย่างถ้วนหน้า

ขณะเดียวกัน ก็ประสานข้อเสนอ 3 ข้อที่เคยปรากฏเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ให้ปรากฏในโฉมใหม่ที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

กระนั้น ที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงยังเป็น”รูปแบบ”ในการขับเคลื่อน

 

ความจริง “เยาวชนปลดแอก”เคยพยายามปักธงในทางความคิดเรื่องการเคลื่อนไหวโดยไม่มีแกนนำ ไม่มีการจัดเวที ไม่มีการปราศรัย ไม่มีการ์ด มาแล้วหนหนึ่ง แต่ไม่ได้รับความสนใจ

เพราะว่าเป็นการนำเสนอในขณะที่ขบวนเคลื่อนไหวได้ยกระดับไปถึงขั้นประกาศเป็น”คณะราษฎร 2563”

ขณะเดียวกัน ก็ปรากฏ”แกนนำ”ที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์โดยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น นายอานนท์ นำพา ไม่ว่าจะเป็น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ไม่ว่าจะเป็น น.ส.รุ้ง ปภัสยา

ความพยายามในการเสนอผ่าน”เยาวชนปลดแอก”จึงไม่ประสบผลสำเร็จ กระทั่งมาถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 การนำเสนอผ่าน REDEM จึงอุบัติขึ้นอีกครั้ง

คำถามก็คือ การขับเคลื่อนโดยไม่มี”แกนนำ” โดยไม่มี”เวที” โดยไม่พึ่งพิง”นักปราศรัย” โดยไม่มี “การ์ด”จะเป็นไปได้หรือไม่

คำตอบอยู่ที่การกำหนด”นัดหมาย”อันมาจาก REDEM

 

ต้องยอมรับว่า ปรากฏการณ์ของ”เยาวชนปลดแอก”ที่เสนอตัวมาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นปรากฏ การณ์อันมีเยาวชน นักศึกษา เป็นกองหน้า

บทบาทของเขาสร้าง”ปรากฏการณ์”อย่างใหญ่หลวงและทะลุทะลวงในการสร้าง”ประเด็น”ทางการเมืองเป็นอย่างสูง

การเกิดของ REDEM จึงเท่ากับเป็นการปรับตัวอีกครั้ง

ไม่เพียงแต่เป็นการปรับตัวของ”เยาวชนปลดแอก” หากเท่ากับเป็นการปรับตัวอย่างทรงความหมายของ”คนรุ่นใหม่”เยาวชน