เหมือนกับการอภิปรายของ “เจ๊เจี๊ยบ ก้าวไกล”ในประเด็นเรื่องบ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นการชกไปในความว่างเปล่า

เพราะว่าเรื่องบ้านพักนี้ได้เคยผ่านการประทับรับรองมาแล้วจากการพิจารณาของ”ศาลรัฐธรรมนูญ”

คำถามก็คือ หากเป็นความว่างเปล่าเหตุใดจึงได้มีการสั่งการและมอบหมายให้คนของตนไปแจ้งความกล่าวหา “เจ๊เจี๊ยบ ก้าวไกล”อย่างทันทีทันควัน

ทั้งยังเป็นการกล่าวหาโดยตั้งประเด็นไปยังประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ทั้งๆที่ในความเป็นจริง เป้าหมายของ”เจ๊เจี๊ยบ ก้าวไกล”พุ่งไปยัง 1 การเสียภาษีเงินได้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 1 กฎ หมายป.ป.ช.ที่มิให้นักการเมืองรับผลประโยชน์เกิน 3,000 บาท

ประการหลังนี้ต่างหากที่กลายเป็น”วัวพันหลัก”

เพราะส่งผลให้เกิดการขุดคุ้ยเกี่ยวกับเงินงบประมาณที่กองทัพบกเทไปกับ”บ้านหลังนี้”อย่างเป็นระลอก

 

นี่ย่อมเป็นข้อมูลอันได้มาจากการตรวจสอบของนักรบไซเบอร์ในโลกออนไลน์ โดยการเจาะเข้าไปในรายละเอียดงบประมาณการใช้จ่ายของกองทัพบก กระทรวงกลาโหม

เป็นการนำเสนอต่อเนื่องผ่าน”เอกสาร”อย่างเป็นทางการระบุรายละเอียดเอาไว้ครบถ้วน

ไม่ว่าจะเป็นเงินงบประมาณค่าจำกัด”ปลวก”

ไม่ว่าจะเป็นเงินงบประมาณในการก่อสร้างต่อเติมเพื่อความสมบูรณ์และเพียบพร้อมของคฤหาสน์บนที่ดินหลายไร่ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์

ผลก็คือ เงินจำนวนมากมายได้รับการตีแผ่และระบุอย่างแจ้งชัดว่าเป็นส่วนหนึ่งภายในงบประมาณของกองทัพบกเพื่อบ้านพักรับรอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

หากเมื่อใดกรณีที่มีการฟ้องร้องนี้ได้รับการพิจารณาในชั้นศาลยุติธรรมจะมีความพิสดารตามมามากน้อยเพียงใด

 

อย่าได้แปลกใจที่สังคมจะสัมผัสได้ในความหงุดหงิดของ พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา ในที่ประชุมเพื่อดำเนินญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจในวันที่ 3

เหมือนกับจะหงุดหงิดจากการอภิปรายในโครงการนิคมอุตสาห กรรมจะนะ แต่แท้จริงแล้วดำรงอยู่ในแบบความหงุดหงิดสะสม

สะสมต่อเนื่องกระทั่งปะทุออกมาเป็น”ปฏิบัติการ”