E-DUANG : ฝ่ายค้าน ก้าวสู่ยุค แห่ง ดิจิทัล ฝ่ายรัฐบาล จมอยู “อะนาล็อก”

หากเป็นการต่อสู้ในทางการเมือง การต่อสู้ผ่านญัตติขอเปิดอภิปราย ทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจตลอด 2 วันที่ผ่านมาแสดงออกอย่างแจ้งชัดว่าเป็นการต่อสู้ที่ใช้อาวุธแตกต่างกัน

ต้องยอมรับในพัฒนาการของพรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยว่าดำเนินไปอย่างก้าวกระโดด

จากยุคที่เคยใช้ “แผนภูมิ” ต้องมีเพื่อน ส.ส.คอยนั่งประกบและยื่นส่งให้ ไม่ว่าจะเป็นในวันที่ 16 ไม่ว่าจะเป็นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ส.ส.พรรคเพื่อใช้เริ่มใช้พาวเวอร์พอยต์ เริ่มใช้สไลด์ ใช้คลิป

ไม่ว่าจะเป็น น.ส.จิราพร สินธุไพร  ไม่ว่าจะเป็น นายสมคิด เชื้อคง ไม่ว่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ได้สมาทานไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างแนบแน่น เนียนนุ่ม

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ ความหนักแน่นด้วย”ข้อมูล” ทั้งยังเป็นข้อมูลที่ยืนยันด้วย “เอกสาร” ทั้งยังมิได้เป็นเอกสารอย่างธรรมดา ตรงกันข้าม กลับเป็นเอกสาร”ลับ”

เมื่อนักการเมือง”ฝ่ายค้าน”โดดเด่นด้วยข้อมูลและแนบแน่นกับเทคโนโลยียุค”ดิจิทัล”อย่างเด่นชัด ถามว่า”ฝ่ายรัฐบาล”เป็นอย่างไร

 

พลันที่มีคำถามถึงบทบาทและการเคลื่อนไหวของฝ่ายรัฐบาลภาพของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ภาพของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ภาพของ นายสิระ เจนจาคะ ก็โดดเด่นขึ้นมา

เพราะ ส.ส.เหล่านี้คือ “เจ้าประจำ”ในการแสดงบทบาท”ประท้วง” คอยขัดจังหวะการอภิปรายของฝ่ายค้าน

มองผ่านกระบวนการของ”เทคโนโลยี”ก็ยังคงเป็นบทบาทที่ไม่ต้องมีการพัฒนาอะไรมากนัก นอกจากแสดงความรวดเร็วและว่องไวในการยกมือ

นี่แทบไม่แตกต่างไปจากบทบาทของรัฐมนตรีที่ออกมาชี้แจงและตอบโต้ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ยังเป็นเหมือนเดิม

ยังเป็นการตอบไปตามใจ ไม่คำนึงถึง”คำถาม”จากฝ่ายค้าน

กลายเป็นว่า การอภิปรายทั่วไปของฝ่ายค้าน ไม่ตรงกับความต้องการที่จะตอบจากฝ่ายรัฐบาล

 

อาจกล่าวได้ว่า การดำรงอยู่ของรัฐบาล กับ การดำรงอยู่ของฝ่ายค้านมิได้ต่างกันจากสถานะในทางการเมืองเท่านั้น หากแต่อยู่ในยุคสมัยอันต่างกันไปด้วย

หากถือว่าฝ่ายค้านได้เหยียบเข้าสู่ยุคแห่ง”ดิจิทัล”เรียบร้อยแล้ว ฝ่ายรัฐบาลก็ยังจมอยู่กับยุคแห่ง”อะนาล็อก”ไม่แปรเปลี่ยน