ไม่ว่าในสังคมการเมือง ไม่ว่าในสังคมดารา ล้วนประกอบส่วนขึ้นด้วยคน เมื่อนักการเมืองหลายคนมารวมตัวกันก็พัฒนาก่อรูปขึ้นเป็น สังคม เมื่อดาราหลายคนมารวมตัวกันก็พัฒนาก่อรูปขึ้นเป็นสังคม

สังคมอันประกอบขึ้นจากความหลากหลายเช่นนี้จะมีอะไรเป็นเครื่องวัด เป็นเครื่องชี้

คำตอบ 1 คือ ความคิด คำตอบ 1 คือ การปฏิบัติ

นักการเมืองคนหนึ่งอาจเก่งในเรื่องโวหาร พูดเก่งอย่างยิ่ง แถลงการณ์น่าเชื่อถืออย่างยิ่ง ดาราคนหนึ่งก็แทบไม่แตกต่างไปจาก นักการเมือง นั่นก็คือ พูดเก่ง อธิบายเก่ง

การพูดเก่ง อธิบายเก่ง อาจเป็นช่องทางหนึ่งในการแจ้งเกิดใน ทางการเมืองและในทางการเป็นดารา เมื่อประสานเข้ากับหน้าตาอันชวนมองก็ยิ่งทำให้เพิ่มพูนคะแนนและความนิยม

กระนั้น ไม่ว่าพูดเก่งเพียงใด ไม่ว่าจะอธิบายได้ยืดยาวชวนฟังเพียงใด ในที่สุดแล้วการกระทำจะเป็นเครื่องชี้ขาด

การทำครั้งเดียวยังไม่เพียงพอ การทำหลายครั้งจึงแจ่มชัด

 

ในการพิจารณาตัดสินว่านักการเมืองคนนั้นเป็นอย่างไร ดาราคนนั้นเนื้อแท้แล้วเป็นคนอย่างไร จึงจะเอาประพฤติกรรมเพียงครั้งเดียวมาเป็นเครื่องชี้ขาดยังไม่ได้

จำเป็นต้องพิจารณาอย่างเปรียบเทียบแต่ละครั้ง แต่ละครั้งอย่างให้ความเป็นธรรมดา

จึงจะสามารถสรุปและชี้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร

ความหมายจึงหมายความว่า การลงมือทำ ปฏิบัติอย่างเป็นจริงต่างหากที่เป็นปัจจัยชี้ขาดว่าตัวตนที่แท้ของนักการเมือง ของดาราคนนั้นว่าเป็นคนดี หรือว่าตรงกันข้าม

ในกระบวนการพิจารณาก็ต้องพิจารณาตั้งแต่ต้นจนปลาย มิใช่ว่าเอาเพียงครั้งเดียวมายืนยัน เพราะในที่สุดแล้วคนๆหนึ่งจะเป็นคนอย่างไรการกระทำในลักษณะซ้ำต่างหากคือความจริง

ความจริงอันสะท้อนนิสัย สันดาน ตัวตนออกมา

การปฏิบัติที่เป็นจริง การปฏิบัติซ้ำแล้วซ้ำอีก นั่นแหละคือเครื่องวัดและเป็นเส้นแบ่งอย่างเป็นระบบที่สุด

 

ในความสลับซับซ้อนทางการเมือง ในความยอกย้อนและซ่อนปมทางการแสดงออกทางศิลปะ มีเครื่องถนิมพิมพาภรณ์มากหลายมาปิดบังและทำให้ไม่สามารถเข้าถึงความจริง

จึงต้องสัมผัสกับการกระทำ การลงมือปฏิบัติซ้ำแล้วซ้ำเล่าจึงจะสามารถสรุปตัวตนนั้นออกมา ณ เบื้องหน้าความจริงได้