เผยแพร่ |
---|
หากเห็นบทบาทของนักเรียนในการรณรงค์ 1 ธันวา บอกลา”เครื่อง แบบ”ว่าเป็นการแข็งขืนในลักษณะขบถต่อกฎระเบียบและแบบแผนซึ่งสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
พวกเขาไม่เพียงแต่จะถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปในโรงเรียน หากแต่ยังถูกแปะป้ายตราหน้าว่าเป็น”นักเรียนเลว”ในสายตาของครู
บทบาทของ”เอี้ยก่วย”อันปรากฏใน”มังกรหยก ภาค 2” ไม่ยิ่งจะเป็นตราบาป กระทั่งต้องถูกสาปแช่งจากสังคมบู๊ลิ้มในยุคแห่งแผ่นซ้องอย่างสาหัสหรอกละหรือ
เพราะเอี้ยก่วยไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับต่อกระบวนการสอนของครูโดยเฉพาะจากสำนักเฉียนจิงอันสืบทอดมาจากปรมาจารย์ระดับเฮ้งเต็งเอี้ยงผู้มีคุณูปการอย่างสูง
ไม่ว่าจะเมื่อนำชาวจงหยวนสัประยุทธ์ต่อกรกับต่างชาติ ไม่ว่าเมื่อครองตนเป็นนักพรตแห่งสำนักเต๋า
การแข็งขืนไม่ยอมรับเช่นนี้ถือว่ารุนแรงร้ายกาจอย่างยิ่งแล้ว
หากในกาลต่อมาเมื่อเขาเป็นศิษย์แห่งสำนักสุสานโบราณกลับกำเริบเสิบสานผูกรักสมัครจิตกับซือแป๋ที่เสี้ยมสอนตนเข้าไปอีก
กรณีของเอี้ยก่วยอาจเป็นเรื่องในทางส่วนตัว หากเทียบกับการเป็นกบฎแข็งขืนของเหล่า”นักเรียนเลว” หรือการออกมาต่อต้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของ”เยาวชนปลดแอก”
แต่กรณีของเอี้ยก่วยก็ละเอียดอ่อนอย่างยิ่งเพราะเท่ากับเป็นการแข็งข้อต่อขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคมจีน
สังคมจีนที่จะต้องเคารพนบนอบต่อครูผู้อบรมเสี้ยมสอนตน
สังคมจีนให้ความเคารพต่อครูเสมอและเท่าเทียมกับการให้ความเคารพต่อบิดาและมารดา ที่นักเรียนจะต้องเชื่อฟังและปฏิบัติ ตามอย่างไม่มีเงื่อนไข
ใครที่อ่าน”มังกรหยก” ใครที่ติดตามซีรีส์”มังกรหยก”ย่อมสัมผัส ได้ในความเกรี้ยวโกรธของก๊วยเจ๋งในเมื่อรับรู้ในการยืนกรานของเอี้ยก่วยที่จะแต่งงานและร่วมชีวิตกับเซียวเล้งนึ่ง
พฤติการณ์ของเอี้ยก่วยจึงถูกชิงชังรังเกียจ เพราะไม่ปฏิบัติตามแบบแผนของธรรมเนียมประเพณี จึงถูกเรียกว่าเป็น”ขบถ”
วิถีแห่งเอี้ยก่วยจึงเป็นวิถีที่น่าศึกษาอย่างเป็นพิเศษเมื่อปรากฏผ่าน ยุทธนิยายเรื่อง”มังกรหยก”จากปลายพู่กันบรรเจิดของ”กิมย้ง”ปรมา จารย์แห่งยุทธนิยายกำลังภายในของจีน
เป็นการศึกษาและทำความเข้าใจเหมือนกับศึกษาและทำความเข้าใจต่อขบวนของ”เยาวชนปลดแอก”ในปัจจุบัน
นั่นก็คือ บทบาทของ”เอี้ยก่วย”ในฐานะ”นักเรียนเลว”