E-DUANG : ​​​รัฐประหาร เป็น 0 และติดลบ คำถามคือ ใคร จะรัฐประหาร

การเสนอคำถามต่อ ผบ.ทบ.ถึงความคิดอันเกี่ยวกับ”รัฐประหาร”ได้ กลายเป็นคำถามบังคับ ไม่ว่าในยุค พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ไม่ว่าในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

อย่าได้แปลกใจหากเมื่อเข้าดำรงตำแหน่งเป็นผบ.ทบ. พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ จะได้รับคำถามนี้

ความแปลกใจน่าจะเป็น “คำตอบ” มากกว่า

แรกสุดเมื่อเผชิญกับคำถามอันแหลมคมนี้ คำตอบจากปาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งตรงที่สรุปออกมาว่า

“โอกาสที่จะรัฐประหารเป็น 0”

นั่นเท่ากับเป็นการยืนยันว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เหมือนกับเป็นคำตอบตามขนบ เพราะยุค พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เพราะยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ตอบแทบไม่แตกต่างกัน

แต่เมื่อได้ยินคำตอบล่าสุดจาก ผบ.ทบ.ใครๆก็ต้องตื่นตลึง

เพราะว่าคำตอบก็คือ “รัฐประหารเท่ากับติดลบ”อันยืนยันค่าว่าลดต่ำลงยิ่งกว่า 0 ด้วยซ้ำไป

 

ไม่มีใครเชื่อว่า แนวโน้มและความเป็นไปได้ของ”รัฐประหาร”จะเป็นไปไม่ได้ในสังคมของไทย เพราะนี่คือกระบวนการอันกลายเป็นขนบอย่างหนึ่งไปเสียแล้ว

แต่ที่ควรขบคิดและพิจารณาร่วมกันก็คือ เหตุใดท่าทีของผบ.ทบ.จึงประเมินค่าของ”รัฐประหาร”ออกมาในลักษณะนี้

มิใช่เพราะผลสะเทือนจาก”รัฐประหาร”ในอดีตอันไกลโพ้นแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2490 ไม่ว่าจะเป็นเมื่อ เดือนกันยายน 2500

หากแต่น่าจะยังสยดสยองจากผลสะเทือนของรัฐประหารเมื่อ เดือนกันยายน 2549 ผลสะเทือนของรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มากกว่า

เพราะล้วนอยู่ในความรับรู้ของ”ผบ.ทบ.”อย่างใกล้ชิด

ปัญหาอันดำรงอยู่ในเดือนพฤศจิกายน 2563 ก็ล้วนเป็นผลพวงจากรัฐประหาร 2549 และรัฐประหาร 2557 อย่างเด่นชัด

 

ในเมื่อ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ซึ่งเป็นผบ.ทบ.ยืนยันรัฐประ หารไม่เพียงแต่เป็น 0 หากแต่ยัง”ติดลบ” คือต่ำกว่า 0 คำถามก็คือ แล้วใครไหนเล่าจะเป็นผู้ก่อ”รัฐประหาร”

ยิ่งกว่านั้น คำถามก็คือ เป็นรัฐประหารเพื่อ”ชิง”อะไร

ในเมื่อ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ก็เป็นผบ.ทบ.จากการลงนามรับสนองพระบรมราชโองการโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

มิเท่ากับเป็นการชิงอำนาจจากผู้เสนอแต่งตั้งตนเองหรอกหรือ