เผยแพร่ |
---|
ความมั่นใจระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคพันธมิตร กับ ความมั่นใจของคณะ ก้าวหน้าในการกระโจนเข้าสู่สนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่นมีความแตกต่างกัน
ความมั่นใจของพรรคพลังประชารัฐและพรรคพันธมิตรเป็นความมั่นใจจากกลไกอำนาจรัฐที่ตนยึดกุมอยู่
โดยมูลฐานคือความมั่นใจจากรัฐธรรมนูญ โดยบริบทแวดล้อมคือความมั่นใจจากความได้เปรียบที่เป็นรัฐบาล และความมั่นใจจากความได้เปรียบที่เหนือกว่าต่อองค์กรอิสระ
พรรคพลังประชารัฐและพรรคพันธมิตรมั่นใจว่าเมื่อพวกตนชิงความได้เปรียบจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 และความได้เปรียบจากการเลือกตั้ง”ซ่อม”นั่นคือความพร้อม
เป็นความพร้อมที่จะชิงความได้เปรียบในแต่ละองคาพยพของการเลือกตั้งระดับ”ท้องถิ่น” และครองสถานะเหนือกว่าพรรค หรือคณะอันมาจากฝ่ายค้าน
กระนั้น หากมองจากด้านของพรรคฝ่ายค้านหรือจากคณะก้าวหน้าความคิดโดยมูลฐานมีความต่างอย่างสิ้นเชิง
ในบรรดาพรรคฝ่ายค้านอาจกล่าวได้ว่าจังหวะก้าวของคณะก้าวหน้าน่าติดตามมากที่สุด เนื่องจากถอดพิมพ์มาจากพรรคอนา คตใหม่อย่างครบถ้วน
เพราะว่าอยู่ภายใต้การนำของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล
คณะก้าวหน้ามีความพร้อมที่จะส่งตัวบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 32 จังหวัด เป็นการลงสมัครโดยจัดทีมตั้งแต่นายกอบจ.กระทั่งสมาชิกอบจ.
เป็นการสมัครโดยมิได้ใช้ระบบหัวคะแนนเหมือนเดิม เป็นการสมัครโดยประกาศอย่างเด่นชัดว่าจะไม่ใช้เงินเป็นตัวตั้ง หากแต่ใช้”นโยบาย”เป็นตัวเลือก
ตรงนี้ย่อมสร้าง”จุดต่าง”จากพรรคฝ่ายของรัฐบาลเด่นชัด
ตรงนี้ย่อมสร้าง”จุดขาย”เหมือนกับที่พรรคอนาคตใหม่เคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2562
บรรยากาศนับแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม จึงเป็นบรร ยากาศแห่งการขยับในทางการเมืองครั้งสำคัญ เป็นการขยับไปในแต่ละจุดที่มีการแข่งขันทางการเมือง
เป้าหมายคล้ายกับจะเป็นพรรคพลังประชารัฐและพันธมิตร
แต่กล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว เป้าหมายย่อมเป็น”รัฐราชการรวมศูนย์”อันเป็นโครงสร้างที่เทอะทะ ล้าหลัง
เป็นการวิพากษ์ไม่เพียงแห่งเดียวหากแต่กว่า 70 จังหวัด
เป็นการวิพากษ์จากระดับ”ท้องถิ่น”และรวมศูนย์เข้าไปยัง
“ส่วนกลาง”โดยพร้อมเพรียงกัน